ไปศาลครั้งแรก ของ UOB กับความไม่ประทับใจกับเจ้าหน้าที

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19494 โดย thekob
ยอดฟ้อง อยู่ที 15X,XXX ฿ ดอกเบี้ย 28 % ประกอบด้วย สินเชื่อส่วนบุคคล 1 ใบ และ บัตรเครดิต 1 ใบ ฟ้องรวมเลยครับ โดยเงินต้นรวมอยู่ประมาณ 1XX,XXX ฿ และดอกเบี้ยรวมประมาณ 5X,XXX ฿ ศาลนัดครั้งแรกวันที่ 18 August 2012 เวลา 13.30 น.

เริ่มจากตรวจสอบรายชื่อ ว่ามีหมายเลขฟ้องตรงกับของเรารึเปล่า อยู่บัลลังก์ไหน

เมื่อถึงเวลา ผมกะว่าจะไปรอที่บัลลังก์แต่เจ้าหน้าที่ศาลให้เรา คุยตกลงกับทนายของโจทย์ก่อนว่าจะเอาอย่างไร

เริ่มเรื่องกันเลยนะครับ

ทนาย : คุณจะเอาอย่างไร ผมมีข้อเสนอให้ จ่ายที่ยอดฟ้อง จ่ายแบบขั้นบันได 18 เดือน ดอกเบี้ย 13 % เอาป่าว
จำเลย : ไม่เอาอะครับ
ทนาย : แล้วคุณจะเอาอย่างไร
จำเลย : ผมขอจ่ายเงินต้น 3 งวด ภายใน 3 ปี ดอกเบี้ย 0 %
ทนาย : (ยิ้ม) คงไม่ได้หรอกครับ
จำเลย : งั้นผมขอเลื่อนนัดศาลดีกว่า
ทนาย : ได้ครับ แต่เเลื่อนเพื่ออะไรหรือ
จำเลย : เพื่อเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อให้ได้บรรลุข้อตกลงที่ดีที่สุดครับ
ทนาย : แนะ งั้นคุณก็ไปเจรจากับเจ้าหนี้นะขอ ยอดอยู่ใบละ 4x,xxx นะ อย่าบอก Bank นะว่าผมแนะนำมา

จากนั้นทนายก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ว่าผมขอเลื่อนนัดศาล

เจ้าหน้าที่ : เลื่อนทำไม คะ
จำเลย : เพื่อเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อให้ได้บรรลุข้อตกลงที่ดีที่สุดครับ
เจ้าหน้าที่ : งั้นเชิญทนาย และคุณที่บัลลังก์ 8 ค่ะ

จากนั้นเราก็เดินขึ้นลิฟ กดชั้น 6 เพื่อขึ้นไปพบศาล
ที่หน้าห้องทำงานศาล ยังไม่ได้ไปบัลลังก์ 8
ศาลเดินออกมา เราก็สวัสดีท่าน (ศาลท่านใจดีมาก และเทศนาผมนิดหน่อย)

ศาล : ตกลงจะเอาอย่างไร จะยอมหรือจะสู้ หรือเจรจากับเจ้าหนี้ก่อน
ทนาย : จำเลยขอเลื่อนเพื่อไปเจรจากับเจ้าหนี้ก่อนครับ
ศาล : ทนายยอมป่าว
ทนาย : ได้ครับ
ศาล : แล้วทนายพร้อมอีกวันไหนละ
ทนายก็เสนอวันนัดศาล ประมาณอีกหนึ่งเดือน แต่ผมก็ขอเลื่อนเวลาออกไปอีก
สุดท้ายก็ได้วันนัด คือ 8 ตุลาคม 2555 ครับ

จากนั้นศาลก็ให้เราไปรอที่บัลลังก์ 8 และเจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์เป็นผู้หญิง สองคน ก็นั่งพิมพ์เอกสารและก็คุยอะไรกับทนาย
นิดหน่อย (ตอนนี้ผมฟังไม่ถนัด) จากนั้นผ็หญิงอีกคนก็เดินเอาเอกสาร ไปไห้ศาลเซ็นต์ จากนั้นก็เอาเอกสารดังกล่าวกลับมาและให้ทนายอ่านก่อน
และเซ็นต์จากนั้นก็เอามาให้เราเซ็นต์ แต่ก่อนจะเซ็นต์ผมก็ต้องอ่านก่อน เพื่อดูวาเขาพิมพ์ว่าอย่างไร
เนื้อความว่า " จำเลยประสงค์ที่จะขอเลื่อนนัดศาลเพื่อไปเจรจาต่อรองกับเจ้าหนี้ และทางโจทย์ก็มีความเห็นร่วมกันกับจำเลย
ดังนั้นเมื่อถึงวันนัดศาลครั้งต่อไปจำเลยมีความประสงค์ที่จะมาไกล่เกลี่ยกับทางโจทย์อย่างเดียวไม่ประสงค์ที่จะแต่งตั้งทนายเพื่อสู้ความ
ดังนั้นจึงขออนุมัติให้เลื่อนคดีไกล่เกลี่ยไป วันที่ 8 ตุลาคม 2555 เวลา ....."


เมื่อผมอ่านเสร็จ ผมก็ถามเจ้าหน้าที่ ว่า
จำเลย : จากข้อความดังกล่าวถ้าผมไปเจรจากับเจ้าหนี้แต่ไม่ได้ข้อตกลงที่เหมาะสม เมื่อถึงวันนัดผมก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อสู้คดีดิ

เจ้าหน้าที่และทนาย : ทำหน้าตามึน เลิกลัก ชายๆใช่ ค่ะ
จำเลย : อย่างนั้นผมไม่เซ็นต์ หรอก!
เจ้าหน้าที่ : อ้าว
จำเลย : ถ้าเป็นอย่างนี้ งั้นผมขอสู้คดี ดีกว่า
เจ้าหน้าที่ : เออ แล้วจะสู้คดีด้วยประเด็นอะไรคะ
จำเลย : เรื่องดอกเบี้ยที่แพงกว่ากฏหมายกำหนด
เจ้าหน้าที่ : ถ้าสู้คดียังไงคุณก็แพ้ต้องเสียดอกเบี้ยที่ 28 % อยู่ดี เพราะอย่างไรศาลก็ตัดสินที่ยอดเงินฟ้องและดอกเบี้ย 28% อยู่ดีแล้วคุณจะได้อะไร
จำเลย : ก็ผมอยากที่จะลองสู้คดีนี่ เพราะอยากมีประสบการณ์ขึ้นศาลสู้คดีบ้าง
เจ้าหน้าที่ : งั้นแสดงว่าคุณมีเงินนี่
จำเลย : ไม่มีครับ แล้วผมจะสู้ไม่ได้หรือ

เจ้าหน้าที่และทนายทำหน้าตาไม่พอใจ แต่ผมก็นึกในใจว่า เย็ดเด้ เมิงเป็นเจ้าหน้าที่ทำงานกินเงินภาษีกรูนะ ไม่มีความเป็นกลางเลยเมิง :upset:

เจ้าหน้าที่ : ตกลงคุณจะสู้คดีนะ
จำเลย : ครับ

ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พิมพ์เอกสารใหม่แบบสีหน้าไม่พอใจส่วนทนายก็สีหน้าไม่ดี เมื่อพิมพ์เสร็จเจ้าหน้าที่ก็เดินเอาเอกสารไปให้ศาลท่านเซ็นต์
และก็กลับมาให้ทนายอ่านก่อนและเซ็นต์และก็เอามาให้ผมเซ็นต์ โดยเนื้อความมีดังต่อไปนี้
นัดไกล่เกลี่ยให้การสืบพยาน โจทย์และจำเลยมาสาลจำเลยขอแถลงว่า ประสงค์จะสู้คดีแต่ยังไม่มีการแต่งตั้งทนายความ และขอเลื่อนยื่นคำให้การของจำเลย
ภายใน 15 วัน วันนี้จึงขอเลื่อนคดี สอบโจย์แล้วแถลงว่ามีความเห็นร่วมกัน เพื่อให้เวลาจำเลยได้ต่อสู้คดี จึงขอให้เลื่อนคดีไกล่เกลี่ยและสืบพยาน 8 ตค 2555
จากนั้นผมก็เซ็งและเซ็นต์ตามระเบียบ


:laughing: :laughing:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19496 โดย Pych
ขอบคุณนะครับ ที่เอาประสบการณ์มาแชร์ให้เพื่อนๆ ฟัง

คุณทำได้ดีทีเดียวเลยครับ แล้วก็ขอให้ได้ส่วนลดตามที่หวังนะครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19501 โดย thekob

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19536 โดย meawpung
อย่าไปสนใจเจ้าหน้าที่

สิทธิ์ของเรา เราเลื่อนได้ครับ

แต่ว่าเลื่อนแล้วก็คงต้องเตรียมตัวรับมือเจ้าหนี้ครับ

คิดอ่านประการใดต่อไปก็ขอให้โชคดีได้ปิดบัตรนี้ไปนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19537 โดย Nok2865

thekob เขียน: ทนาย : แล้วคุณจะเอาอย่างไร
จำเลย : ผมขอจ่ายเงินต้น 3 งวด ภายใน 3 ปี ดอกเบี้ย 0 %
ทนาย : (ยิ้ม) คงไม่ได้หรอกครับ
จำเลย : งั้นผมขอเลื่อนนัดศาลดีกว่า
ทนาย : ได้ครับ แต่เเลื่อนเพื่ออะไรหรือ
จำเลย : เพื่อเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อให้ได้บรรลุข้อตกลงที่ดีที่สุดครับ
ทนาย : แนะ งั้นคุณก็ไปเจรจากับเจ้าหนี้นะขอ ยอดอยู่ใบละ 4x,xxx นะ อย่าบอก Bank นะว่าผมแนะนำมา
จากนั้นทนายก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ว่าผมขอเลื่อนนัดศาล


ไม่มีเจ้าหนี้รายไหนจะให้ตามที่คุณ "กล้าขอ" หรอกค่ะ

ขอจ่ายเงินต้นแสนบาท ผ่อนแบบปลอดดอก 3 งวด ภายใน 3 ปี

ตกปีละ 33,333.33 บาท

สามปี 36 เดิอน ตกเดือนละ 2,777.77 บาท

บร๊ะเจ้า !!! :crying:

ใครที่ไหนจะให้ล่ะคู๊นนนนน...


คุณไปอ่านกระทู้นี้นะคะ กอบัวกับเพื่อนๆเคยแชร์เรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว
debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=5&id=16210&Itemid=29#16210 ไปศาลมาเมื่อเช้า ครั้งแรกของชีวิต (10 กค. 55) ของคุณ yoongkhing

มีแม่เหล็กอยู่ในหัวใจคุณ ซึ่งจะดึงดูดมิตรแท้
คือความไม่เห็นแก่ตัวและคิดถึงคนอื่นก่อน
เมื่อคุณเรียนรู้เพื่อจะอยู่เพื่อคนอื่น พวกเขาก็จะอยู่เพื่อคุณ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Pych

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19543 โดย 1652

Anakin เขียน: ขอบคุณนะครับ ที่เอาประสบการณ์มาแชร์ให้เพื่อนๆ ฟัง

คุณทำได้ดีทีเดียวเลยครับ แล้วก็ขอให้ได้ส่วนลดตามที่หวังนะครับ

ขอสอบถาม คุณ Anakin ในกรณีที่เรา ตกงานและไม่มีทรัพย์สินเลย ถ้าเราขึ้นศาลแล้วถ้าเราขอเลื่อนศาล โดยบอกเหตุผลว่าเรายังไม่มีงานทำ ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาให้จะได้หรือเปล่าวคะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #19546 โดย Pych

1652 เขียน:

Anakin เขียน: ขอบคุณนะครับ ที่เอาประสบการณ์มาแชร์ให้เพื่อนๆ ฟัง

คุณทำได้ดีทีเดียวเลยครับ แล้วก็ขอให้ได้ส่วนลดตามที่หวังนะครับ

ขอสอบถาม คุณ Anakin ในกรณีที่เรา ตกงานและไม่มีทรัพย์สินเลย ถ้าเราขึ้นศาลแล้วถ้าเราขอเลื่อนศาล โดยบอกเหตุผลว่าเรายังไม่มีงานทำ ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาให้จะได้หรือเปล่าวคะ


แล้วคุณจะให้เหตุผลอะไรแทนล่ะครับ ว่าเลื่อนนัดศาลไปเพื่ออะไร ศาลท่านจะดุเอานะครับ ทำให้ศาลและเจ้าหน้าที่เสียเวลา เพราะ ถ้าคุณเลื่อนนัดศาลปากเปล่า ก็ได้แค่ครั้งเดียว แล้วครั้งหน้า คุณจะทำอย่างไรต่อครับ

ถ้ายังไงก็ไม่สู้คดี จะให้ศาลตัดสิน พิพากษาเลย ก็ไม่ต้องไปขอเลื่อนนัดศาลให้เสียเวลาทุกฝ่ายครับ

ฝากอ่านกระทู้นี้ให้เข้าใจด้วยนะครับ
หากลูกหนี้(จำเลย)ไม่มีเงินเดือ​นและทรัพย์สิน...จะเป็นอย่างไร?​
www.consumerthai.org/debtclub/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=8746&Itemid=29

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32332 โดย thekob
หลังจากที่ต่อสู้กันมาอย่างเข้มข้น ศาลก็พิพากษา ประมาณปลายปี 2012 และช่วงที่รออยู่ก็เก็บเงินได้ส่วนหนึ่งแล้วก็ทยอยเจรจาปิดบัตรไปจนเกือบหมด เหลือก็แต่ UOB เจ้าปัญหานี่ คิดไปแล้วมันก็เจ็บแปลบขึ้นมาทันที่ เพราะเคี่ยวจริงๆ ลดจากยอดฟ้อง150,000 บาท เหลือ 100,000 บาท ลดเกือบถึงต้นเงิน BUT!! แต่จ่ายก้อนเดียว จบเลยผม ! จะหาจากไหนได้นี่ ดังนั้นผมก็รอๆๆ จนมาถึง กลางเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2013 ก็เลยไปคัดคำพิพากษา ผลที่ได้ คือ

โดนเลยตู.........

ศาลตัดสินให้นำเงินที่จ่ายหนี้ไปลบเงินต้นหลังจากนั้น Interest 7.5 %
ดังนั้น ผมจึงรีบคิดเลข โดย ใช้ MS EXCEL แบบด่วนๆๆ
ผลปรากฏว่า ลด ครับ
แต่ผมก็คิดไปอีกว่า โจทย์น่าจะยื่นอุทรณ์ รึเปล่า
เลยนอนไม่ค่อยหลับว่าจะเจรจายังไงดีนะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32334 โดย thekob
ผมไปคัดคำพิพากษามาแล้ว ผลปรากฏว่าศาลท่านพอมีความเมตา ผมจึงมีคำถาม คือ
เมื่อทนายโจทย์เสียผลประโยชน์ เขาจะยื่นอุธรณ์ หรือเปล่า ?
ผมจะเจรจ่ายเงินอย่างไร เพื่อไม่ให้อายัดเงินเดือน ครับ?

ขอความกรุณาด้วยครับ


Anakin เขียน: ผมรวมกระทู้ให้นะครับ

มีเรื่องอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ

เรื่องราวจะได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะประเด็นใหม่หรือเก่า มีคนละกระทู้ก็พอนะครับ

คนมาอ่านมาตอบจะได้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้

โดยกดที่คำว่า "กระทู้ของฉัน" ตามรูปข้างล่างครับ

[/color][/b][/size]

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32335 โดย bad_au
ผมเคยไปเลื่อนครั้งแรกของบัตรรีดดี้ และบัตรเทสโก้ ตอนนั้นไปศาลแถวจอมทอง ก็ได้ใบเลื่อนมาแบบไม่ต้องเสียตัง ปีนี้ไปเป็นเพื่อน กับเพื่อนที่ไปขึ้นศาลแถววัดดอน ใบเลื่อนที่นี่ไม่ฟรี คิดค่ากระดาษ (5 บาท) และเหมียนก็พูดไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บอกมาได้ อะไรอะไรฟรีๆ ไม่มีหรอก
(ขี้เกียจเอาไม้สั้นไปรันขี้) เลยจ่ายๆ ไป (นึกในใจ เสียดายภาษีที่จ่ายพวกนี้จริงๆ)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32340 โดย Pych
ศาลพิพากษาให้คุณใช้หนี้ให้แก้เจ้าหนี้แบบนี้ ผมว่า เจ้าหนี้ไม่อุทธรณ์หรอกครับ ต้องเป็นจำเลยสิครับที่ยื่นอุทธรณ์

ผมขอรายละเอียดของคำพิพากษาหน่อยได้ไหมครับ จะได้ลองคำนวณดูให้
ตัวอย่างของย่อหน้าสำคัญของคำพิพากษา

"พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน จำนวน XXX,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ XX (7.5 - 15) ต่อปี
จากต้นเงิน XXX,000 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ XX เดือน XXXXX ปี XXXX) เป็นต้นไป
จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โดยกำหนดค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ (หรือ xxxx บาท)"

เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว คุณบอกตกงาน แค่ตอนนี้คุณคงได้งานแล้วใช่ไหมครับ
ดีใจด้วยนะครับ

หลังจากคุณได้รับคำพิพากษาแล้ว คุณจะมีทางเลือกหลักๆ อยู่ 3 แบบ คือ
1. หักคอจ่าย (เจรจากับโจทก์ไม่ลงตัว แต่ก็ฝืนที่ะจ่ายให้เจ้าหนี้เข้าไป โดยยอดที่ชำระ ต้องชำระภายใน 15 วันหลังจากได้รับคำพิพากษา และเป็นยอดที่สมน้ำสมเนื้อ เมื่อคุณบอกคำพิพากษามา ผมจะช่วยคำนวณให้คร่าวๆ แต่วิธีนี้ไม่รับประกันว่าโจทก์จะไม่ไปอายัดเงินเดือนต่อหรือไม่ - เป็นวิธีที่ต้องวัดดวงเอา)
2. เจรจากับโจทก์เพื่อขอจ่ายแบบผ่อนชำระ xx งวดๆ ละ xxxx บาท (โจทก์จะยื่นข้อเสนอให้ผ่อนเท่ากันเป็นงวดๆ หรือเป็นขั้นบันได อาจจะปลอดดอกเบี้ย หรือมีดอกเบี้ยก็จะไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี)
3. รอให้โจทก์ไปทำเรื่องให้กรมบังคับคดีอายัดเงินเดือน อายัดบัญชีเงินฝาก สืบทรัพย์ ยึดทรัพย์ อายัดทรัพย์ (การอายัดเงินเดือนจะทำได้ทีละเจ้าหนี้ๆ ที่ฟ้องทีหลัง ต้องรอจนกว่าเจ้าแรกได้รับชำระจนครบ หรืออาจไปสืบทรัพย์ ยึดทรัพย์แทนเลย และข้าราชการจะไม่โดนอายัดเงินเดือน)

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32353 โดย thekob
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ
ตอนนี้ผมได้งานแล้วครับ และได้ปิดบัตรไปเกือบหมดแล้ว เหลือก็แต่รายนี้ครับ ที่เจรจายาก


คำพิพากษา ให้นำเงินที่จำเลยชำระแก่โจทก์ทั้งหมดตามใบบันทึกรายการยอดหนี้ 17 พ.ย. 51 ถึง 17 ส.ค. 53 ไปหักจากเงินต้นเสียก่อน (96,000) เมื่อเหลือเงินต้นเท่าใด ให้จำเลยชำระเงินต้นคงเหลือจำนวนดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ย 7.5%ต่อปี นับตั้งแต่ 19 ก.ย. 53 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระสำเร็จ และ
ให้นำเงินที่จำเลยชำระแก่โจทก์ทั้งหมด (ถูกฟ้องแบบมัดรวม 2 ใบ) ตามใบบันทึกรายการยอดหนี้ 18 ม.ค. 52 ถึง 19 ก.ย. 53 ไปหักจากเงินต้นเสียก่อน (72,150) เมื่อเหลือเงินต้นเท่าใด ให้จำเลยชำระเงินต้นคงเหลือจำนวนดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ย 7.5%ต่อปี นับตั้งแต่ 19 ก.ย. 53 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระสำเร็จ และ
ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมโจทก์ 3,000 บาท

คำนวณ

1. จาก 96,000 หักที่จ่ายไป เหลือ 66,100 บาท
2. จาก 72,150 หักที่จ่ายไป เหลือ 13,170 บาท
1+2=79,270 ฿

Interest 7.5 % per Year (5,946 บาทต่อปี)
เริ่ม 19 ก.ย. 53 ถึง ปัจจุบัน
คิดดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอก
ณ.วันที่ 26 ก.พ. 56 ยอดหนี้อยู่ที่ 95,194.6 บาท

แนวทางของผมน่าจะผ่อนเป็นงวดครับแต่ดอกเบี้ยจะยึดตาม 7.5% รึเปล่า

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32354 โดย thekob
ตอนขึ้นศาล ทนายโจทก์ของ UOB จะใช้แนวทางวิธีแบบยืดเยื้อครับ ต่อยากมาก จะให้ผ่อนที่ยอดฟ้อง
อย่างเดียวแบบไม่มีดอกเบี้ย แต่ฟังแล้วเหมือนจะดูดี แต่จำนวนเงินที่ฟ้องนะมันคิดดอกแบบโหดมาแล้วครับ
แต่ถ้าจะจ่ายต้นเงินมันก็ให้นะ แต่จ่ายงวดเดียวครับ (ผมเพิ่งได้งานจะหาเงินจากไหนได้ นอกจากกลับมาเป็นหนี้อีก) ขึ้นศาลมันไม่น่ากลัวหรอกครับ พอผ่านช่วงนี้ได้คุณจะแกร่งขึ้น แต่คุณต้องมีระเบียบในการใช้จ่ายหนี้นะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32395 โดย Pych

thekob เขียน: ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ
ตอนนี้ผมได้งานแล้วครับ และได้ปิดบัตรไปเกือบหมดแล้ว เหลือก็แต่รายนี้ครับ ที่เจรจายาก


คำพิพากษา ให้นำเงินที่จำเลยชำระแก่โจทก์ทั้งหมดตามใบบันทึกรายการยอดหนี้ 17 พ.ย. 51 ถึง 17 ส.ค. 53 ไปหักจากเงินต้นเสียก่อน (96,000) เมื่อเหลือเงินต้นเท่าใด ให้จำเลยชำระเงินต้นคงเหลือจำนวนดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ย 7.5%ต่อปี นับตั้งแต่ 19 ก.ย. 53 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระสำเร็จ และ
ให้นำเงินที่จำเลยชำระแก่โจทก์ทั้งหมด (ถูกฟ้องแบบมัดรวม 2 ใบ) ตามใบบันทึกรายการยอดหนี้ 18 ม.ค. 52 ถึง 19 ก.ย. 53 ไปหักจากเงินต้นเสียก่อน (72,150) เมื่อเหลือเงินต้นเท่าใด ให้จำเลยชำระเงินต้นคงเหลือจำนวนดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ย 7.5%ต่อปี นับตั้งแต่ 19 ก.ย. 53 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระสำเร็จ และ
ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมโจทก์ 3,000 บาท

คำนวณ

1. จาก 96,000 หักที่จ่ายไป เหลือ 66,100 บาท
2. จาก 72,150 หักที่จ่ายไป เหลือ 13,170 บาท
1+2=79,270 ฿

Interest 7.5 % per Year (5,946 บาทต่อปี)
เริ่ม 19 ก.ย. 53 ถึง ปัจจุบัน
คิดดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอก
ณ.วันที่ 26 ก.พ. 56 ยอดหนี้อยู่ที่ 95,194.6 บาท

แนวทางของผมน่าจะผ่อนเป็นงวดครับแต่ดอกเบี้ยจะยึดตาม 7.5% รึเปล่า


เจ้าหนี้คิดดอกแบบทบต้นทบดอกไม่ได้นะครับ คิดจากเงินต้นเท่านั้นครับ

ขอ copy ที่เคยตอบไว้นะครับ
เทคนิคการเจรจาต่อรอง Haircut ไม่มีหลักเกณฑ์ตายตัวหรอกครับ
แต่ก็คล้ายๆ การต่อราคาซื้อของน่ะครับ

หากเราทำให้แม่ค้ารู้ว่า เราอยากได้สินค้ามากๆ (อยากปิดหนี้มากๆ)
แม่ค้าก็ไม่ยอมลดราคาสินค้าให้ใช่ไหมครับ อ้างสารพัดว่า ต้นทุนมาแพง ค่าเช่าที่สูง ขายก็แทบไม่มีกำไร

แต่ถ้าเราสามารถหลอกให้แม่ค้าเข้าใจว่า เราไม่ได้อยากได้เลย (ไม่ได้อยากปิดหนี้)
แม่ค้าก็จะเสนอลดราคามาให้เอง แบบไม่ต้องต่อรองกันเลย
ยิ่งเราทำท่าจะเดินออกจากร้าน ไปซื้อร้านอื่น แม่ค้ายิ่งรีบลดราคาให้แทบเหลือแต่ทุนกันเลย

อย่าไปให้เขารู้นะครับ ว่า ไม่อยากให้อายัดเงินเดือน

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ่นกับวาทศิลป์ของคุณเอง ว่าจะหว่านล้อม ล่อหลอกเจ้าหนี้ได้เก่งแค่ไหน
รวมทั้งดวงของคุณเองด้วย เพราะ บางครั้ง วันนั้น เดือนนั้น แม่ค้าขายดี ขายได้ตามเป้า (เก็บหนี้ได้ตามเป้า) แม่ค้าก็อาจจะไม่ง้อคุณเลยก็ได้ครับ

ขอให้โชคดีครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: bad_au

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32396 โดย thekob
ขอบมากคุณครับ
เท่าที่ผมโทรไป และทางโจทก์โทรมาประมาณ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 56
เหมือนกับว่าเขายังไม่ได้ไปคัดคำพิพากษา เขาเสนอให้ปิดที่ 105,000 บาท ปิดก้อนเดียวเลย
แต่ตามกฎ หลังจาก พิพากษา 26/12/12 ทางโจทก์ น่าจะรู้คำพิพากษา ก่อน 26/1/13 แล้ว
และโจทก์

โจทก์น่าจะคิดเงินโดยตามคำพิพากษา ใช่ไหมครับ ''แต่ที่ผมเจรจาทางโจทย์มันคิดเงินเกินคำพิพากษา ''
ถ้าคิดที่เงินต้น 79,270 ฿ และ ดอกเบี้ย 7.5%ต่อปี นับตั้งแต่ 19 ก.ย. 53 ถึง วันที่ 26 ก.พ. 5
(คิดแบบไม่ทบต้นทบดอก)
ผ่านมาแล้ว 892 วัน คิดเป็น ปี = 2.44 ปี
เงินต้น 79,270 ฿ ดอกเบี้ย 7.5%ต่อปี
ดังนั้น 1 ปี ต้องเสียดอกเบี้ย 5,945.25 บาทต่อปี
2.44 ปี ต้องเสียดอกเบี้ย 2.44 x 5945.25 = 14,506.41 บาท
รวม 79270+14506.41 = 93,776.41 บาท

ค่าฤชาธรรมเนียมโจทก์จะจ่ายอย่าไรครับ ?


เหตุผลที่ไม่อยากให้อายัดเงินเดือนเพราะ
ถ้าคิด 30% ของเงินเดือนสุทธิน่าจะอายัดได้ประมาณ
12,000 ต่อเดือนครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32397 โดย thekob
ขณะนี้ ทรัพย์สิน ของผมไม่มีแล้ว เพราะโอนหมดแล้ว
เพราะผมไม่ประมาทดีกว่า ถึงเงินไม่มากแต่ไม่อยากเสี่ยงครับ
เพราะพวกนี้จรรยาบรรณ มันไม่มี

เห็นได้จากตอนไปศาล
มีคนโดนขึ้นศาลคดีบัตรเหมือนกับผม
ทนายมันไม่เคยแนะนำในทางที่ดีเลย
มันบอกให้จำเลยกลับบ้านก่อนเดี๋ยวผมจะจัดการให้
มันพูดแบบน่าตาเฉย และจำเลยก็เชื่อ กลับบ้านตามที่มันบอก
ดังนั้นก่อนขึ้นศาลลองเสียเวลาสักนิดหาข้อมูลสักหน่อย (ข้อมูลต้องน่าเชื่อถืออ้างอิงตามตัวบทกฎหมาย+ ยอดเงินต้นที่ถูกฟ้อง ดอกเบี้ยที่เขาคิด + กระแสเงินสดของคุณที่มีเข้าออกของคุณในแต่ละเดือน) แล้วจะไม่ถูกหลอกแบบง่ายๆ
รอบคอบสักนิด อ่านและคิดก่อนเซนต์ชื่อ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32400 โดย thekob
ผมเช็คทางศาลแล้ว ทนายโจทก์ยื่น อุธรณ์ครับ เพราะเขาว่า
เงินยอดฟ้องกับคำพิพากษา มันแตกต่างกันมาก แต่ผมว่าเมื่อรวมเงินแล้วแตกต่างจากต้นไม่เท่าไหล่ครับ
แต่ต้องลุ้นว่า ทางโจทย์ยื่นอุธรณ์ก่อน 30 วันรึเปล่า แต่ผมว่ามันน่าจะยื่นภายใน 30 วันหลัง คำพิพากษาแน่นอนครับ

ดูมันทำสิครับ
น่าจะเป็นหนังม้วนยาวแน่ๆ

ใครเคยเจอกรณีแบบนี้ช่วยตอบแช์ประสบการณ์บ้างนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #32483 โดย thekob
เมื่อศาลพิพากษาแล้วแต่โจทก์อุธรณ์อยู่ ถ้าจ่ายเงินหยอดเข้าบัญชีหนี้จะเป็นอย่างไร?
จะถือว่าเป็นการเริ่มใช้หนี้ตามคำพิพากษาหรือเปล่า

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.026 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena