จะทำ hair cut แนะนำด้วยครับ

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1367 โดย Noodee01
ขอตอบตามประสบการณ์และข้อมูลในเว็บนะครับ

1. ผมหยุดหมดทุกใบ
2. เว็บแนะนำว่าบัญชีเงินเดือนเท่านั้นที่ห้ามหยุด (แต่บังเอิญธนาคารที่เงินเดือนเข้า ผมไม่มีบัตรกะเค้า)
3. มีเข้ามาทวงถึง บ. หรือไม่ อันนี้ ไม่ฟันธง แต่ของผม STD มันมาถึง บ.เลย ส่งคนหน้าโหดตัวใหญ่ ๆ มา
เลย บุกมาถึง Office คนใน Office ตกใจกันใหญ่
แถมนิดมีจดหมายน้อยใส่ซองสีชมพู โยนเข้ามาในบ้านด้วย กลับมานึกว่าใครมาหลงรัก.. เปิดมาเป็นเจ้าหนี้ที่รัก

ผมเลยหมั่นใส้มันเล็กน้อย เลยจัดหนัก จ่ายหลังเพื่อน แล้วได้เยอะกว่าใบอื่น ๆ อีก

ให้ไว้เป็นข้อมูลนะครับ ส่วนอย่างอื่นพื้นฐาน ในเว็บแห่งนี้ ครบแล้วครับ ลองค้นๆ ดูจะรู้ว่าทางออกของคุณมันมีมากมาย


ลองกะมันดูครับ ชั่งน้ำหนัก เหตุและผลให้ดีครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1369 โดย Skynine

tonepa เขียน: ผมทำงานบริษัท เอกชน เงินเดือน 80000 บาท
มีหนี้ ต้องจ่าย ต่อเดือน เดือนล่ะ แปดหมื่นบาท เช่นกันครับ
และผมต้องชำระขั้นต่ำ และถอนออกมาใหม่ครับ
โดยมี หนี้ที่ต้องจ่ายดังนี้
1. city bank จ่ายข= 6190 B /
2. STANDAR CHARTER จ่าย = 6770 B
3.UOB VISA จ่ายขั้นต่ำ= 4800 B
5.UOB CASH จ่ายขั้น= 2190 B
6.KTC CASTจ่ายขั้นตำ= 3500 B
7.KTC VISA จ่ายขั้นตำ=13000 B
8.HOME PRO VISA จ่ายขั้นต่ำ=12000 B
9.FIRST CHOCE จ่ายขั้นต่ำ= 3500 B
10. U-MAY PLUS จ่ายขั้นต่ำ = 3000 B
ทั้งหมดนี้ เป็นการจ่ายขั้นต่ำต่อเดือน เท่านั้น และยังไม่รวมค่าผ่อนบ้านและรถ น่ะครับ
เพือนๆช่วยแนะนำหน่อยครับว่าควรหยุดจ่ายทั้งหมดเลยดีไหมครับ และผมจะเจอการท้วงที่ บริษัทหรือไม่ครับ เนื่องจากทำงานต่ำแหน่งใหญ่พอสมควร
ขอบคุณครับ



โอสถแก้หนี้ :555:

1.เมื่อไม่ไหวก็หยุดจ่าย หยุดตั้งหลัก
2.รถกับบ้านห้ามหยุดจ่าย (รถหากไม่มีความจำเป็นต้องใช้มากนัก แนะให้ขายดาวน์นำเงินมาเก็บไว้ แล้วเปลี่ยนไปใช้บริการโดยสารด้านอื่นๆ ดูบ้างก็ดีนะ ไว้หมดหนี้ซื้อคันใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม เป็นเพียงข้อเสนอแนะนะ ทำตามหรือไม่แล้วแต่คุณ)
3.ณ ตอนนี้เอาครอบครัว+ตัวเราให้อิ่มก่อนหนี้ ข้อนี้สำคัญมากๆ นะ
4.เก็บเงินไว้ มากน้อยเป็นก้อนใหญ่ เดือดร้อนนำมาใช้ โดยไม่ต้องหยิบยืมจากใคร รอแฮร์คัต
5.ทำบัญชีรายรับ-จ่าย
6.อุดสิ่งที่ฟุ่มเฟือย เช่น เคยดื่มเบียร์ เหล้า ไวน์ บุหรี่ หยุดซะ เปลี่ยนไปดื่มผลไม้ น้ำเปล่า ซึ่งดีต่อสุขภาพกาย และกระเป๋า สิ่งของหากยังไม่จำเป็นต้องใช้ ชะลอออกไปก่อน ซ่อมได้ก็ซ่อม
7.ระหว่างหยุด ไม่จ่ายหยอด หรือจ่ายเดินบัญชีทั้งสิ้น และไม่ต้องไปปรับโครงสร้างหนี้หรือประนอมหนี้ (ชื่อมันเพราะเสนาะหู แต่มันแฝงไว้ด้วยช็อกโกแลตสอดไส้ยาพิษ หลงกล จ่ายไม่ไหว หนี้เพิ่มสองเท่า และจะเกี่ยวกับข้องกับอายุความด้วย (เริ่มนับใหม่)ฟ้องเร็วขึ้น ยอดฟ้องยอดใหม่ไม่ใช่ยอดหนี้เดิม ต้องระวังเป็นพิเศษ
8.ไม่สร้างหนี้เพิ่มขึ้นมาอีก ข้อนี้สำคัญมากๆ
9.หลังหยุดจ่ายสิ่งแรกที่จะต้องโดนกันทุกคน คือ การโดนโทรทวงหนี้ (ไม่ต้องไปกลัวมัน วิธีแก้ให้ไปอ่านวิธีแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ทุกคนต้องอ่านด่วน ในนั้นมีคำตอบให้ทั้งหมด เพียงคุณลงมืออ่านให้เข้าใจแล้วนำไปใช้แก้ปัญหาตรงจุดที่มี
10.การทวงหนี้ของพวกเจ้าหนี้ มีหลายแบบ ก็รับมือไปตามสถานการณ์ หากพูดข่มขู่ ประจานเรา ทำเรื่องร้องเรียนไปที่ธปท. หากมาบริษัทเรามีสิทธิที่จะไม่ให้เข้าพบ หากมันยังระรานบอกยามจัดการกับมัน หรือถ้าเอาให้หนักโทรแจ้งตำรวจ
11.เราแค่เป็นหนี้ เราไม่ได้ไปฆ่าใครตาย ไม่ต้องไปกลัว เป็นคดีแพ่งไม่ติดคุก
12.ตำแหน่งเล็กตำแหน่งใหญ่ก็เป็นหนี้กันได้ทั้งนั้น เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว คนเรามีความจำเป็นที่จะต้องใช้ต้องกิน เพราะเราต้องดำรงชีพอยู่ด้วยพื้นฐานปัจจัย 4 อย่าง คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค เมื่อเราพลาด เรากำลังแก้ไข อย่ากังวล

ปล. ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆๆ พี่อัง สวยประหาร o_)
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1370 โดย meawpung
สู้ๆนะครับ อ่านกระทู้เก่าเยอะๆ เหมือนอ่านข้อสอบเก่านะครับ จะได้สอบผ่าน เกมส์นี้เดิมพันด้วยเงินของเราเองนะครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1371 โดย Champcyber99
Hair-Cut 1.คุยดีๆ กับคู่สนทนา แสดงจุดยืนว่าอยากจะแก้ปัญหาหนี้ 2. แสดงถึงความลังเลเล็กๆมีลูกล่อลูกชน ว่าจะจ่ายเจ้าหนี้ที่กำลังคุยอยู่ หรือว่าจ่ายเจ้าอื่นดี (ที่ให้ส่วนลดเยอะกว่า) ถ้าคุณไม่เอาก็ไปต่อท้ายแล้วค่อยว่ากันใหม่ 3. กำหนดเวลาให้เจ้าหนี้ตัดสินใจว่าจะยอมตามเงื่อนไขที่เราเสนอหรือมีเงื่อนไขที่ดีกว่าหรือไม่ 4.อธิบายเจ้าหนี้ว่าได้เงินจากเรา ดีกว่าการฟ้องร้องถึงศาลเรามีเวลาไปสู้คดีและรู้ เข้าใจกฎหมายคดีแพ่งพอสมควร เจ้าหนี้จะฟ้องไม่ยอมลดจริงหรือ? 5. ถ้ามีเงินก้อน อยากทำ Hair-cut แล้ว และมีตัวเลขในใจที่อยากได้ส่วนลดแล้ว เจรจากับสถาบันการเงินเจ้าหนี้เราโดยตรงก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องติดต่อกับสำนักงานกฎหมายเสมอไป เพราะสถาบันการเงิน เจ้าหนี้จะตัดสินใจได้ง่ายกว่า เพราะสำนักงานกฎหมายจะได้ค่าคอม หรือซื้อหนี้เราต่อมาจากสถาบันการเงินอีกที ดังนั้นถ้าเรามีเงินก้อนแล้ว ยังไงเสียสถาบันการเงินก็ต้องเสียค่าคอมให้สำนักงานกฎหมายอยู่ดี เค้าจึงลดหนี้ ตัดสินใจลดหนี้ให้เราได้ไม่อยากครับถ้าติดต่อกับสำนักงานกฎหมาย เค้าก็เป็นเพียงตัวกลางที่จะไปคุยกับสถาบันการเงินให้เท่านั้นเองดังนั้นในมุมมองของผมคุยโดยตรงเองเลยดีกว่าครับ ทั้งนี้ลดได้มากน้อยขึ้นอยู่กับการคุยเจรจาต่อรองด้วยครับ ย้ำไปเลยครับว่าลดตามที่เราต้องการ เราจ่ายได้ทันที 6. เงินที่จะนำมา Hair-Cut ต้องเงินที่ไม่ได้มาจากการกู้ยืมที่มีดอกเบี้ยนะครับ หรือเป็นเงินเก็บ หรือ โบนัส เพราะถ้าไปกู้มาอีก ก็ไม่จบไม่สิ้นซักทีซักหน้าไม่ถึงหน้าอีกเหมือนเคย 7. ถ้าเจ้าหนี้เป็นฝ่ายเสนอลดมาเอง อยากให้มองว่าอย่างกลางๆ ครับว่าเงื่อนไขที่ทางเจ้าหนี้เสนอมานั้น เราจ่ายไหวไหม? น่าสนใจและรับได้และพอใจหรือเปล่า? อย่าไปมองเพียงแค่ต้องการให้ได้ส่วนลดเยอะๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ให้พิจารณาว่าถ้าเราจ่ายไปแล้ว เราลดเจ้าหนี้ไปอีกหนึ่งราย(ได้ลดภาระหนี้ไปทีละจุดๆ)ที่เหลือก็ค่อยๆมาปลดหนี้ที่ละรายต่อไป ตามกำลังและความสามารถ(แต่ต้องจ่ายไหวด้วยตัวเองจริงๆนะ ไม่ควรไปกู้หนี้ยืมสินที่ต้องเสียดอกเบี้ยจากที่อื่นมาปิด Hair-Cut อีก มิฉะนั้นจะไม่มีวันจบสิ้น) ถ้าสามารถทำได้เช่นนี้ ก็จะสามารถค่อยๆปลดหนี้ได้สำหรับการ Hair Cut หนี้นั้นสามารถทำได้ตลอดทุกช่วงเวลา หลังจากที่หนี้ของเราเน่าเต็มที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในช่วง 1. ก่อนได้รับหมายฟ้อง(ต้องไม่จ่ายนานๆหลายเดือนพอสมควร) 2. ได้รับหมายฟ้องแล้ว แต่ยังไม่ถึงวันที่ต้องไปขึ้นศาล 3. ขึ้นศาลแล้วยังไม่ได้พิพากษา แต่ยังอยู่ในระยะเวลาระหว่างการต่อสู้คดี 4. ศาลพิพากษาเรียบร้อยแล้ว และรอการจ่ายชำระเงินคืนตามคำพิพากษาก็ Hair-cut ได้อยู่ 5.ศาลพิพากษาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างการถูกอายัด อายัดทรัพย์สินหรือเงินเดือน ก็ Hair-cut ได้อยู่ สรุปว่าถ้าตนยอม ยังไงก็ Hair Cut ได้ครับ ข้อพึงระวังก่อนตัดสินใจทำ Hair-Cut ประเด็นสุดท้ายที่สำคัญของการทำ Hair Cut คือ จะต้องให้ทางเจ้าหนี้ทำเอกสารยืนยันการปลดหนี้ หรือหมดซึ่งภาระหนี้ ซึ่งกันและกันด้วยทุกครั้ง โดยเราต้องได้รับหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเจ้าหนี้ก่อนที่จะทำการชำระ Hair Cut ใดๆ เมื่อเจรจา Hair Cut ไม่สำเร็จ Hair Cut ไม่สำเร็จไม่เป็นไรครับ เพราะเรามีเงินก้อนถือว่าเป็นต่อแล้ว ถ้าไม่ไปเจรจาเจ้าอื่น เพราะมีหนี้ก้อนนี้ก้อนเดียว เก็บเงินสดไว้ก่อนครับ พร้อมกับบอกให้เจ้าหนี้ส่งเรื่องฟ้องศาลได้เลย หลายท่านคงถามว่าบ้าหรือเปล่าเร่งให้ฟ้องศาล การเจรจาต่อรองหนี้เหมือนเกมวัดใจครับ เหมือนกัน เพราะจิตวิทยาเจ้าหนี้ส่วนใหญ่รู้ว่าคนส่วนใหญ่กลัวโดนฟ้อง ลูกหนี้ไม่อยากขึ้นศาล วุ่นวายใหญ่โต ถ้าเราโชว์ให้เห็นไปเลยครับว่า เราพร้อมไปศาล เราไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เสนอเงินคืนให้คุณก็ไม่เอา เจ้าหนี้ฉุกคิดแล้วครับ เพราะการเจรจา Hair Cut ถ้าเราได้ทำเอกสารแจ้งเจ้าหนี้เป็นลายลักษณ์อักษรไปแล้วและนำเอกสารนี้ไปแสดงต่อศาลว่าเรามีความพยามยามที่จะจ่ายแล้ว แต่เจ้าหนี้ไม่รับ ศาลก็เห็นใจเราครับ สู้คดี ค่อนข้างได้เปรียบ อย่าลืมว่า Hair Cut ทำเมื่อไหร่ก็ได้ ศาลตัดสินแล้วยังทำได้เลย...ดังนั้นถ้ายอดที่เราเสนอไปครอบคลุมเงินต้นที่เราค้างชำระอยู่ บวกกับดอกเบี้ย ที่เจ้าหนี้ควรจะได้ในอัตราที่เหมาะสม (อย่างน้อยร้อยละ 15 ต่อปี) ถ้าเราเสนอยอดสูงกว่ายอดนี้และแสดงให้เห็นว่าเรายื่นข้อเสนอนี้ไปแล้ว ศาลอาจคำนวณยอดหนี้และดอกเบี้ยให้อย่างเป็นธรรม...ยังไงเราปลดหนี้ได้ในยอดที่น่าจะใกล้เคียงกับที่เสนอ Hair Cut ครับเพียงแต่ช้ากว่าหน่อยเท่านั้นเองครับ
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Bphatt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1376 โดย Champcyber99

tonepa เขียน: ขอบคุณ ทุกท่าน ที่ให้คำแนะนำ อยากทราบว่า เมื่อหยุดจ่ายแล้ว ประมาณกี่เดือนถึง จะโดนฟ้องที่ศาลครับ

ไม่แน่นอนครับเจ้าหนี้ฟ้องเร็วที่สุดก็คือซิตี้แบงก์ 3-4เดือน แต่ก็ไม่แน่ 8-9เดือนก็ได้เจ้าอื่นๆๆส่วนมาก10-11-12ครับไม่ต้องสนใจครับผมรับมาแล้ว3ชุดใจเย็นๆๆนะครับทุกอย่างมีทางแก้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1382 โดย Skynine

tonepa เขียน: ขอบคุณ ทุกท่าน ที่ให้คำแนะนำ อยากทราบว่า เมื่อหยุดจ่ายแล้ว ประมาณกี่เดือนถึง จะโดนฟ้องที่ศาลครับ



1.ตอนนี้รับมือกับการหยุดจ่ายก่อน คือ การโดนทวงหนี้ หมั่นโทรศัพท์สักพักจะชำนาญ
โต้ตอบได้อัตโนมัติ ช่วงหยุดจ่ายเดือนแรก มันอาจคิดว่าเราลืมส่ง มันยังพูดดีอยู่
แต่หลัง 2-3 เดือนขึ้นไป เริ่มกระหน่ำโทรทวง พอสัก 5 เดือนขึ้นไป เบาหู...มากเลย
จนบางครั้งทำไมมันไม่โทรมาวะ โค-ตะ-ระ เหงาปากมากเลย ระยะเวลาฟ้องเอาประมาณนะ 8 เดือน
ส่วนเรื่องขึ้นศาล ค่อยๆ ศึกษาไปพร้อมๆ กันได้ จะได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น
2. ส่วนการจะได้ส่วนลดหรือทำการแฮร์คัตได้ ก็ประมาณ 8 เดือนขึ้นไป คือ ซึ่งเป็นระยะหนี้เน่าแล้ว
แต่หนี้เน่าเท่าไรยิ่งดี ปล่อยให้เน่าจนเฟะนั่นแหละดี ข้อสำคัญต้องมีเงินอยู่ในมือพร้อมแล้ว
3. ณ ตอนนี้อยากให้คุณอ่านวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ช่วงการรับการโทรทวงหนี้ และมั่น
อ่านกระทู้เพื่อนๆ พี่ๆ ด้วย จะได้เกิดแนวทางซึ่งนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับเราได้
4. วิธีการหนึ่งอาจเหมาะกับอีกคน อีกวิธีอาจเหมาะกับอีกคน ส่วนของเราผสมผสานให้เป็น
สูตรเรา

ปล.ช่วงปีใหม่นี้ถ้าไม่ได้ไปไหน ก็อ่านวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ทุกคนต้องอ่าน
และกระทู้พี่ๆ เพื่อนๆ จะได้มีความรู้ที่แน่นขึ้น เสริมภูมิคุ้มกัน หากอ่านไม่เข้าใจส่วนไหน ถามมา
ที่กระทู้เดิมนี้แหละ ไม่ต้องไปสร้างกระทู้ใหม่นะ

ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1583 โดย Skynine

tonepa เขียน: วันนี้ ไม่ไปชำระ FIRST CHOCE เป็นเจ้าแรก ตื่นเต้น จังเลย ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
รอลุ้นครับ

:555:


ถ้าอ่านวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่ทุกคนต้องอ่านแล้ว เรามีภูมิคุ้มกันแล้ว ต่อไปมันโทรมาทวง เดือนแรกมันคิดว่าเราลืมก็แค่โทรมาเตือน ถ้าเดือนเข้าเดือนที่ 2-3 มันเริ่มกระหน่ำโทร แต่อย่างไรอย่าวิตก อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า ให้รับมือไปตามสถานการณ์ ช่วงแรกจะตื่นเต้นพี่อังก็เป็นเหมือนกัน แต่เรามีเงินเหลือเยอะขึ้น และไม่เหนื่อยที่จะต้องนำเงินไปใส่ในบัตรโน่น และอีก 2-3 วัน กดมาใส่อีกบัตรหนึ่ง ตอนนั้นเหนื่อยมากๆ (ตอนที่ยังไม่หยุดจ่าย)

เมื่อเงินอยู่ในมือเราก็บริหารให้เป็นด้วยนะ เก็บเงินนี้ไว้ รอแฮร์คัต เราไม่ได้หนีหนี้ ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย จ่ายเมื่อเราพร้อม แต่ที่เราต้องหยุด เพราะเราไม่ไหวแล้ว ถ้ายังฝืนหามาจ่ายอีก เราก็ยิ่งเป็นหนี้มากขึ้นอีก มันอิ่ม แต่เรา+ครอบครัวอด อย่างไรเรา+ครอบครัว ต้องอิ่มก่อนหนี้เสมอ...

ปล. พี่อังจะเป็นกำลังใจให้คุณ และจะส่งกำลังใจไปให้ ณ ตอนนี้ส่งไปให้แล้ว 50 กระบุง รอรับได้เลย การเป็นหนี้ได้มากขนาดนี้ เราก็ใช้เวลาสร้างมาเหมือนกันใช่ไหม ฉะนั้น เจ้าหนี้มันก็ต้องรอบ้างเพราะเราก็ต้องมีเวลา (เก็บเงิน)ใช้หนี้คืนเหมือนกัน ทุกอย่างเมื่อสติมา ปัญญาเกิด หนี้หมดอย่างถูกวิธี สู้ๆๆๆ พี่อัง สวยประหาร o_)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1604 โดย Hathaichanok05

tonepa เขียน: ขอบคุณ พี่ อังมาก ครับ
วันพรุ่งนี้ ผมจะเอาเงิน ไปฝากแบงก่อน เจ็ดหมื่น บาท (ปกติต้องหมุนจ่าย หนี้)
และเช่นเดียวกัน ผมก็ไม่จ่าย KTC 2 ใบเช่นกัน โอ้ พระเจ้า
ผมเก็บทีเดียว ได้ตั้ง 7 หมื่น ครับ โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
^^ ^^ o_)




ความรู้สึกเดียวกันเลยคุณเอ๊ย ... ปกติต้องเอาเงินไปหมุนจ่ายหนี้ ตอนเราเอาเงินไปฝากบัญชีครั้งแรกเดือนธันวาที่ผ่านมานี้ ตื่นเต้นมาก ยิ้มไม่หุบเลยอะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 3 เดือน ที่ผ่านมา #1605 โดย Skynine

tonepa เขียน: ขอบคุณ พี่ อังมาก ครับ
วันพรุ่งนี้ ผมจะเอาเงิน ไปฝากแบงก่อน เจ็ดหมื่น บาท (ปกติต้องหมุนจ่าย หนี้)
และเช่นเดียวกันผมก็ไม่จ่าย KTC 2 ใบเช่นกัน โอ้ พระเจ้า
ผมเก็บทีเดียว ได้ตั้ง 7 หมื่น ครับ โปรดติดตามตอนต่อไปครับ
^^ ^^ o o_) _)


love
เห็นไหมละว่าพอเราหยุด เราเหลือเงินเยอะมาก แล้วถ้าคุณเก็บได้มากขนาดนี้ คงใช้เวลาคืนหนี้พวกเจ้าหนี้ไม่นาน..
อาจไม่ต้องไปขึ้นสู่กระบวนการศาล เพราะคงทำแฮร์คัตได้หมดก่อนขึ้นศาล แต่เราต้องบังคับตัวเองนะ มันอาจจะรู้สึกว่าเราเหนื่อยแต่เรามีเงิน
ผิดกับที่ยังไม่หยุดจ่าย เหนื่อยแต่เงินไม่พอจ่ายให้พวกเจ้าหนี้และบางครั้งเราก็อด และเดือดร้อนอะไรเราก็เอาเงินเก็บนี้มาใช้ได้
มันอาจใช้เวลาสักประมาณ 3 เดือนนะที่เริ่มอยู่ตัวในการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตใหม่ ชีวิตที่พออยู่ พอกิน และพอเพียง

อย่างไรตอนเงินเดือนออกกดออกมาให้หมด เก็บเงินไว้ในที่ปลอดภัย พี่อังเป็นกำลังใจให้ และจะส่งกำลังใจไปให้เสมอ สู้ๆๆๆ
หนี้มันอยู่กับเราไม่นานหรอก เดี๋ยวมันก็หายไปจากชีวิตเรา...พี่อัง สวยประหาร o_)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #3645 โดย Pych

ก่อนอื่น ผมย้ายกระทู้ของคุณมารวมไว้ในกระทู้เดิมที่คุณเคยตั้งไว้

เพื่อความต่อเนื่องของเรื่องราว และจะได้ไม่ทำให้เว็บบอร์ดมีกระทู้เยอะเกินไป

เขาไม่รู้ที่ทำงาน เนื่องจาก ผมเปลี่ยน ที่ทำงาน และเบอร์โทร
1. ผมควรแจ้งเบอร์ ผม.ให้เขาทราบใหม่ครับไมครับ

ไม่ต้องแจ้งหรอกครับ
ถ้าบริษัทของคุณมีการส่งเงินเข้าประกันสังคม ไม่นานหรอกครับ น่าจะไม่เกิน 1-2 เดือน หลังจากที่คุณได้รับเงินเดือน เพราะ เจ้าหนี้เช็คได้จากประกันสังคมที่บริษัทของคุณนำส่งเข้าไป

2.เขารู้ที่ผมอยู่ครับ ติดต่อได้โดยการส่งจดหมายครับ

แล้ว คำถามคือ ???? :blink: :blink:

3. นานไมเขาจะรู้ ที่ทำงานครับ

ตอบไปแล้ว


"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 2 เดือน ที่ผ่านมา #3648 โดย Ly89
ใช่แล้วครับ...

เพราะเจ้าหนี้คืดว่า...คุณอาจจะหนีหนี้ ไปต่างประเทศ ฆ่าตัวตาย ฯลฯ จนเสี่ยงว่าจะเป็นหนี้สูญ...

จึงต้องชิงฟ้องเพื่อจะได้ทำการสืบทรัพย์ และยิดทรัพย์ขายทอดตลาดโดยเร็วไงครับ...

เพราะฉนั้น เวลาเจ้าหนี้ติดต่อกลับมา หรือทวงหนี้ พยายามรับโทรศัพท์เข้าไว้ครับ

เจ้าหนี้จะได้รู้ว่าเราไม่หนีไปไหน และกำลังพยายามหาเงินมาใช้หนี้อยู่.....

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6019 โดย nirun
อ่าน กติกาของชมรมก่อนครับ เดี๋ยวกรรมการจะไม่ มาตอบให้นะครับ อ่านแล้วสงสัยค่อยถาม

ผมก็หยุดประมาณ 2 เดือนครับ พึ่งเริ่มต้นเองครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6020 โดย nirun
เพิ่มเติม อ่านกระทู้ที่ปักหมุดก่อนครับ

ไม่ต้องรีบร้อน สู้ๆ ครับ

nirun เขียน: อ่าน กติกาของชมรมก่อนครับ เดี๋ยวกรรมการจะไม่ มาตอบให้นะครับ อ่านแล้วสงสัยค่อยถาม

ผมก็หยุดประมาณ 2 เดือนครับ พึ่งเริ่มต้นเองครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6021 โดย jackTs

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6022 โดย jackTs

tonepa เขียน: ท่านทั้งหลาย ขอปรึกษา ด่วนครับ
1. มี uob โทรมา บอกจะปรับโครงสร้างนี้ให้ จากดอกเบี้ย 20 เป็น 18 ต่อปี
ผ่อนชำระ เป็นงวด งวดล่ะ 1700 = 60 งวด แต่ผมอยากได้แบบ แฮคัด
2.first choice จะลดดอกเบี้ยให้ จาก 28 เหลือ 15 ต่อ ปี
เอาไงดีครับ พี่ ผมพึ่ง หยุดจ่ายได้ 2 เดือนเอง

ถามแบบนี้ แสดงว่าไม่ได้อ่าน"กระทู้ปักหมุด" เลยล่ะสิ

debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=749&Itemid=29



.
อนณสุข ปรมาลาภา

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6024 โดย Hathaichanok05

tonepa เขียน: ท่านทั้งหลาย ขอปรึกษา ด่วนครับ
1. มี uob โทรมา บอกจะปรับโครงสร้างนี้ให้ จากดอกเบี้ย 20 เป็น 18 ต่อปี
ผ่อนชำระ เป็นงวด งวดล่ะ 1700 = 60 งวด แต่ผมอยากได้แบบ แฮคัด
2.first choice จะลดดอกเบี้ยให้ จาก 28 เหลือ 15 ต่อ ปี
เอาไงดีครับ พี่ ผมพึ่ง หยุดจ่ายได้ 2 เดือนเอง




อยากได้แบบ haircut ก็ต้องรอก่อนค่ะ ใจเย็นๆ เจ้าหนี้มันรอได้

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6026 โดย Pych


คุณ tonepa ครับ อีกครั้งแล้วนะครับ

ที่ผมต้องมารวมกระทู้ให้คุณ

คุณมาถึงก็ถามๆๆๆๆ ใครมาตอบ มาแนะนำ

อะไรไว้ ได้ไปอ่านบ้างไหมครับ

ศึกษากฎ กติกา มารยาท ของชมรมหนี้ฯ ด้วย

สิครับ :เฮ้อ: :เฮ้อ:

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps, juthatip.jj

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21953 โดย meawpung
ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ครับ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #21956 โดย powerfully
ยินดีด้วยคะ ที่จะหมดหนี้กับโฮมโปร
KTC เป็นยังไงช่วยเล่าให้ฟังด้วยนะคะ powerfully มี 2 ประเภท บัตรเครดิต 80,xxx กับ บัตรกดเงินสด 30,000 :P

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

11 ปี 7 เดือน ที่ผ่านมา #22259 โดย Pych

ผมรวมกระทู้ให้เป็นครั้งที่สี่ แล้วนะครับ

มีครั้งต่อไป ผมขอแบนความเป็นสมาชิกนะครับ

มีเรื่องอะไรสงสัย ก็กลับมาถามต่อที่กระทู้เดิมนะครับ

เรื่องราวจะได้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะประเด็นใหม่หรือเก่า มีคนละกระทู้ก็พอนะครับ

คนมาอ่านมาตอบจะได้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้

โดยกดที่คำว่า "กระทู้ของฉัน" ตามรูปข้างล่างครับ



"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 0.801 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena