รบกวนเวลาทุกท่านที่มีประสบการณ์ช่วยแนะนำด้วยค่ะ

mlek เขียน: ...อยากระบายบอกเจ้านายให้รู้น่ะค่ะ แต่ทำใจไม่ได้สักที จะเขียนแล้วส่งเป็น mail หรือจะบอกปากเปล่าเองดี...เพราะก่อนหน้านี้ (2ปีที่แล้ว) เจ้านายเคยช่วยเหลือเรื่องเงินมาแล้วซึ่งตอนนี้เหลืออีก 47000 ก็จะจบแล้ว (ส่ง 7000/เดือน)....แค่อยากเล่าแต่ไม่อยากให้ช่วยเพราะจะใช้วิธีที่ชมรมฯ แนะนำ (รอเวลา) ค่ะ....
.... อึดอัดใจน่ะค่ะ อยากจะขอปรับขึ้นเงินเดือนด้วย (ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า) แต่ก็ไม่ได้คาดหวัง (เพราะการหวังมักจะผิดหวังเสมอ)

ตอนพี่บัวหยุดจ่ายใหม่ๆ คิดว่าต้องบอกคนโน้น คนนี้ เพื่อจะได้รับมือกับสายทวงหนี้ได้อย่างสบายใจ เพื่อนอยากมองยังไง ช่างมัน ไม่สนแล้ว
คิดไปถึงว่า ถ้าเขามาทวงหน้าบ้าน ข้างบ้านรู้เข้า อายไปถึงวงศ์ตระกูล
(เคยเห็นข้างบ้านโดนอีอ้อนตรีนมาตะโกนออกชื่อทวงหนี้...แต่พี่บัวเอาสายยางฉีดน้ำ ฉีดมันไปค่ะ 555++ แอบช่วยข้างบ้าน)
ที่ไหนได้...ตั้งแต่หยุดจ่าย จนหนี้หมด ข้างบ้านไม่รู้เรื่องเลย ที่ทำงานก็จนรับสายทวงหนี้ไปได้หลายเดือนเขาถึงรู้ เพราะเราบอกเขาเอง
ยิ่งตอนแฮร์คัทได้ใบแรก ยิ่งฮึกเฮิม ดีอกดีใจ...ไม่หวั่นหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนๆ
ผ่านด่านทวงหนี้ ผ่านการต่อรองแฮร์คัท หน้ามันจะเริ่มหนาขึ้น หนาขึ้น จนด้านและมึนไปเอง 555++
I don't c a r e e e e e คร้า....คุณน้อง...
เรื่องปรับเงินเดือน อย่าไปเครียด มันเป็นการตัดสินใจของคนอื่น ไม่ได้อยู่ในอำนาจที่เราจะทำได้
ที่ทำงานพี่บัว ปากบอกไม่หวังสองขั้นๆ แต่พอกูไม่ได้ขึ้นมา ออกลวดลายตัวจริงเสียงจริงมาเลย
ปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของนายเถอะค่ะ แต่หากเป็นกรณีที่น้องเล็กคุยได้ อยากคุย ก็คุยไปเถอะค่ะ แต่หากไม่ตั้งความหวังอะไรไว้มาก...เราก็จะไม่ "ผิดหวัง" ค่ะ

สาม อ. ค่ะ ท่องให้ขึ้นใจ

ขอบคุณพี่น้ำมนต์ที่เข้ามาให้กำลังใจมากๆเลยค่ะพี่ เล็กก็ขอให้พี่น้ำมนต์สู้สู้นะคะ (ดูพี่เป็นคนสุขุม+ใจเย็น) ...และขอบคุณสำหรับประสบการณ์และคำแนะนำของพี่บัวมากๆค่ะ เล็กไม่ได้คาดหวังว่าเจ้านายจะต้องปรับขึ้นเงินเดือนให้ตามที่ขอค่ะ แค่อยากบอกเรื่อง "หนี้" ที่อาจต้องโดนโทร.เข้าที่บริษัทเท่านั้นเองค่ะ ขอบพระคุณพี่ๆทั้งสองมากๆนะคะ เล็กจะนำมาปรับใช้เป็นแนวทางต่อไปค่ะ ... สู้สู้เช่นกันค่ะ

สู้สู้ เป็นกำลังใจให้อีกแรงครับ

ผมก็เคยครับแต่ก็ต้องตั้งสติ และใจเย็นๆหาวิธีการแก้ปัญหาครับ อันนี้ผมแนะนำนะครับว่า
"มีหนีต้องใช้หนี้ หลีกไม่ได้หลอกครับ"

ผมแนะนำว่าควรจะแก้ปัญหาดังนี้นะครับ

1. พิจารณาดูว่าเราไหวที่จะจ่ายทั้งหมดเดือนละเท่าไหร่ ถ้าไหวและสามารถจ่ายได้ทุกที่ ให้ดำเนินการขอปรับโครงสร้างหนี้
2. ถ้าทางธนาคารไม่ยอมให้เราจ่ายหรือปรับโครงสร้างหนี้ แล้วก็แนะนำให้หยุดจ่ายทุกๆที่ แล้วให้ดำเนินการเจรจา เพื่อดำเนินการปิดที่ละที่ (เอาง่ายๆว่าต้องเก็บเงินก้อนครับ)

**** อย่าไปซีเรียสกับเรื่องทวงหนี้ให้มากครับ เป็นเรื่องธรรมดา มันเป็นหน้าที่เขา แต่ถ้าเขาทำแล้วมันไม่ได้อยู่ในกรอบของกฏหมายเราก็สามารถฟ้องร้องได้ครับ

สู้ๆนะครับ ผมผ่านมันมาได้เพราะว่ามีสติ และตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน หยุดการใช้เงินที่ฟุ่มเพื่อย แล้วเราจะมีความสุขครับ......

rode-empty เขียน: ผมก็เคยครับแต่ก็ต้องตั้งสติ และใจเย็นๆหาวิธีการแก้ปัญหาครับ อันนี้ผมแนะนำนะครับว่า
"มีหนีต้องใช้หนี้ หลีกไม่ได้หลอกครับ"

ผมแนะนำว่าควรจะแก้ปัญหาดังนี้นะครับ

1. พิจารณาดูว่าเราไหวที่จะจ่ายทั้งหมดเดือนละเท่าไหร่ ถ้าไหวและสามารถจ่ายได้ทุกที่ ให้ดำเนินการขอปรับโครงสร้างหนี้
2. ถ้าทางธนาคารไม่ยอมให้เราจ่ายหรือปรับโครงสร้างหนี้ แล้วก็แนะนำให้หยุดจ่ายทุกๆที่ แล้วให้ดำเนินการเจรจา เพื่อดำเนินการปิดที่ละที่ (เอาง่ายๆว่าต้องเก็บเงินก้อนครับ)

**** อย่าไปซีเรียสกับเรื่องทวงหนี้ให้มากครับ เป็นเรื่องธรรมดา มันเป็นหน้าที่เขา แต่ถ้าเขาทำแล้วมันไม่ได้อยู่ในกรอบของกฏหมายเราก็สามารถฟ้องร้องได้ครับ

สู้ๆนะครับ ผมผ่านมันมาได้เพราะว่ามีสติ และตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงิน หยุดการใช้เงินที่ฟุ่มเพื่อย แล้วเราจะมีความสุขครับ......

ขอให้สมาชิกใหม่ และใหม่ๆ ตั้งสติในการอ่านการตอบกระทู้ของสมาชิกด้วยกันเองด้วยนะครับ

ในปักหมุด วิธีแก้ปัญหาหนี้ที่ทุกคนต้องอ่าน ก็บอกอยู่แล้วนะครับ ใครจะเลือกแก้วิธีไหน

จะ 1st way / 2nd way / 3th way ให้ใช้สติของท่านตัดสินใจ ตามสถานการณ์ของตัวเอง

ส่วนการประนอมหนี้นั้น ชมรมไม่แนะนำให้ทำนะครับ ถ้าไม่มีเจ้าหนี้น้อยรายจริงๆ

และประเมิณรายได้ รายจ่ายแล้ว สามารถผ่อนไหวตลอดรอดฝั่ง...หรืออาจจะต้องประเมิณ

งานที่ทำด้วยว่า มีแนวโน้มที่จะตกงานหรือเปล่า....

ถ้าจะใช้ 1st way out ก็ให้จ่ายมากกว่าขั้นต่ำไปดีกว่า ไม่ต้องไปปรับโครงสร้างหนี้

เพราะถ้าวันนึงไม่ไหวจริงๆก็ยังมี 2nd way out รองรับอีกที....

ขออภัยกรรมการทุกท่านด้วยนะครับ ถ้าคำตอบนี้ไม่สมควร ขอบคุณครับ.....


ปล. ผมไม่ได้หมายความว่าคุณ rode-empty ตอบไม่ดีนะครับ...เพียงแต่สิ่งที่คุณเขียน

มันอาจทำให้บางคนเข้าใจผิดได้ครับ.....

ขอบพระคุณทุกๆท่านเลยค่ะ ตั้งแต่ rode-emply (ซึ่งไม่รู้ว่าตั้งใจแจ้งข้อมูลปลอมหรือเปล่า)?????....ขอบคุณคุณbufy ค่าที่เข้ามา(ย้ำ)ให้ข้อมูล และขอบพระคุณมากๆค่ะคุณ Anakin ที่ช่วยดูแลพวกเรา (ว่าใครจริงใครจะปลอม) เหมือน "ผู้พิทักษ์" สิทธิ์ให้กับเราเหล่าสมาชิกค่ะ
........
ก็อยากจะบอกว่า "ใครแสแสร้ง" โกหก เพื่อเข้ามาดูหรือแอบแฝงอะไรเข้ามาเป็นสมาชิก "อย่าให้รู้" (คิดแล้วน่าโมโห) เอ....แล้วเราจะไปทำอะไรเค้าด้ายยยยย....
.................................................
......

อยากรายงานสถานการณ์ ณ วท.10/05/55...หลังจากที่เมื่อวานเป็นวันหยุดราชการ ตอนแรกก็นึกว่าจะไม่มีคนโทร.มาแล้วน๊าาาาาดันมีจนได้ (แต่ยังพูดจารับได้อยู่) .... มี CIMB; Citi; สแตนดาร์สฯ 2 ครั้ง โอ๊วววว....ก็ไม่น้อยนะ (เพราะธ.ไม่หยุดง่ะ) จะมีปัญหาก็วันนี้แหละที่เข้าประชุมตั้งแต่เช้าาาาาาาา...เที่ยงกว่าๆ เพิ่งจะเลิกเลยไม่ได้รับสักกะสายเลย...พอเราโทร.กลับก็บอกว่าเบอร์นี้ยังไม่เปิดใช้บริการมั่งล่ะ...สายไม่ว่างมั่งล่ะ...แงแง....บ่ายนี้รีบโทร.กันเข้ามาเลยนะเจ้าหนี้...ฉันไม่ได้ไม่คิดจะไม่รับสายนะเฟ้ย!!!....(เริ่มนอย์สอีกล่ะเรา)......เข้ามาเล้ย...พร้อมแล้ว....
................................
.....
ยังไม่ทันกด "ส่ง" ก็มีสายเข้ามาเลย (เหมือนรู้เลยนะ) จากกรุงศรี (HSBC เดิม)
กรุงศรี.. ขอสายคุณ.......ครับ
เรา... พูดสายค่ะ
กรุงศรี.. ผม.....(บอกชื่อ)..จากธ.กรุงศรีนะคะ ที่รับโอนจาก HSBC น่ะนะครับ
เรา... ค่ะ
กรุงศรี.. ยอดค้างชำระ ณ ตอนนี้ 2 งวดแล้ว (จะงวดที่ 3) ยอด 6,200.- บาท ไม่ทราบวันนี้สะดวกชำระได้ที่ไหนครับ....
เรา... ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ
กรุงศรี... อะไรนะครับ (ทำเสียงเหมือนไม่ได้ยินที่เราพูด)
เรา... ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ
กรุงศรี... เหรอครับพี่ แต่ตอนนี้ค้างจะ 3 งวดแล้วครับ คือถ้า 3 งวดแล้วเรื่องจะถูกส่งเข้าไปทางสนง.กฎหมายน่ะครับ
เรา.. คุณก็ดำเนินการตามขั้นตอนของคุณไปก่อนได้เลยค่ะ
กรุงศรี... ถ้าจ่ายได้รบกวนจ่ายเข้ามาที่ธ.กรุงศรี เลขบัญชีเงินกู้เลขที่..........จำนวนเงิน 6,200.- บาทนะครับพี่ รบกวนพี่จดไว้ด้วยนะครับ
เรา.. จดละ..แต่ยังไม่มีจ่าย และยังไม่กำหนดวันนะคะ..สวัสดีค่ะ
กรุงศรี.. สวัสดีครับ

..ดูมัน เรามานั่งบวกตัวเลขดูผ่อนต่องวด ๆ ละ 2,680.-x 2 ก็ต้องแค่ 5,360.- ดิ แล้วนี่ดันมาบอก 6,200.- บาท ณ วันนี้ อีก 840.- บาท มันเอามาจากไหนวะ ถ้าไม่ใช่บวกโน่นนั่นนี่น่ะ....เฮ้ออออ...สู้สู้ต่อไป

ฉันรับโทรศัพท์คุยกับ "ทวงหนี้"

ฉันบอกกับทวงหนี้ว่าฉัน "ยังไม่มีจ่าย"

ทวงหนี้ไม่ฟังตะโกนใส่หูฉันด้วยเสียงดังๆ...

ฉันบอกกับตัวเองว่า "เดี๋ยวก็ชิน"

เป็นกำลังใจให้ สู้ๆๆ พี่อัง สวยประหาร

ขอบคุณค่ะพี่อัง...ได้กำลังใจจากพี่เสมอเลยทุกครั้ง นำกลับมาทบทวนทุกครั้งค่ะ Love Love

HSBC ก่อนหน้านี้เคยส่งจดหมายมาว่ากำลังโอนย้ายไปอยู่กรุงศรี และบอกอีกว่าขึ้นราคาค่าทวงถามครับ
จากครั้งละ 200 บาท เป็นครั้งละ 300 บาทครับของผมจะครบกำหนดส่งอีกวันที่ 15 นี้แหละครับ
คงต้องได้รับสายเพิ่มอีกสายแน่นอน ตอนนี้ให้ลดค่าทวงถามมาเหลือ 30 บาทผมก็ยังไม่มีจ่ายเลย
เดี๋ยวเย็นนี้ต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัดอีก ขืนจ่ายไปได้แวะขอข้าวก้นบาตรพระกินแน่ๆ

ขอบคุณค่ะคุณ prapapan ค่าติดตามทวงถามเนี่ย "โหด" ชมัดเลยเนอะ...แต่พวกนั้นเค้าก็มีรายได้จากตรงนี้นั่นแหละเนอะ...เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ แล้วอย่าลืมเข้ามาแชร์อะไรดีๆให้พวกเราได้อ่านกันอีกนะคะ เล็กก็จะพยายามมาแชร์ประสบการณ์ต่อจากนี้ต่อไปเรื่อยๆค่ะ

@K. Anakin…..แก้ไขข้อมูลที่ถูกต้องแล้วนะครับ

@K. Mlek & all friends….
ผมสมัครสามาชิกนี้เพราะว่าอยากจะมาแชร์และแบ่งปันประสบการณ์การแก้ปัญหาของผมและอย่าน้อยมันอาจจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆได้บ้างครับ ทั้งนี้เพื่อจะได้บรรเทาทุกข์ของเพื่อนๆได้บ้าง และหากเป็นอย่างนั้นผมก็ได้บุญครับ เพราะผมเข้าใจดีว่าการเป็นหนี้และการเจอสถานะการณ์แบบนี้มันเป็นไง ตอนนั้นผมทั้งกลัว ทุกข์ หดหู หมดหวัง ระแวง ไม่เป็นสุข ไม่มีกำลังกายกำลังใจในการมีชีวิตต่อไป คิดวกไปวนมา โทษโชคชะตาตัวเองทำไมเป็นแบบนี้ ไม่มีความสุข ดังนั้นผมจึงอยากเข้ามาแบ่งปันครับ ไม่มีวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่ดีครับ
*****ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างนี้นั้น ใช่ครับมันเหมาะสำหรับคนที่รายการหนี้ไม่เยอะ, ยอดหนี้ไม่เยอะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกวิธีนี้นั้นเวลาคิดต้องรวมยอดทั้งหมดทุกๆๆที่แล้วคำนวนครับ ว่าไหวมั๊ย เอาทุกๆ factor มาคิดคำนวนและคิดในแง่ long terms ให้มากๆ แต่ถ้าคำนวนแล้วทางแบงใดแบงหนึ่งไม่ยอม อย่าไปปรับเด็ดขาด ให้เลือกวิธีที่สอง ซึ่งการทำวิธีนี้ต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดให้ดีครับ
>>> ตัวผมเองก็ไม่แนะนำครับการปรับโครงสร้างหนี้ แต่วิธีนี้มันก็เป็นอีกทางเลือกในการแก้ปัญหาก็ควรควรศึกษาไว้ครับ
*****อีกวิธีคือคือหยุดจ่ายทุกๆๆที่แล้วค่อยเก็บเงินก้อนมาปิดครับแล้ว (ผมก็ใช้วิธีนี้ครับ)
เมื่อประมาณปีกว่าๆ (เกือบ 2 ปีที่แล้ว) ผมมียอดหนี้ ประมาณ 5 แสน จำนวน 14 รายการ (KTC, STCB, SCB) วิธีการปัญหาผมคือ
1. ตั้งสติครับ
2. ศึกษาข้อมูลว่าจะแก้ยังไง (อ่านหนังสือหรืออาจปรึกษาเวปไซต์นี้ก็โอเคนะครับ ดังนั้นผมเลยแก้ดังนี้
2.1 ปรับโครงสร้างหนี้ (ปรับโครงสร้างหนี้ไป 1 รายการ แต่สุดท้ายก้อไม่ไหวเพราะผมมีรายการหนี้เยอะตั้ง 14 รายการ)
>> ถ้ายอดหนี้เยอะเหมือนผม ผมก็ไม่แนะนำวิธีนี้นะครับ หรือถ้าไม่น่ใจหรือไม่รู้จริงก็ไม่แนะนำเหมือนกันครับ
2.2 หยุดจ่ายทุกๆที่ครับ แล้วก็ขอส่วนลดกับทางแบงค์ แล้วก็หาเงินก้อนมาปิดครับ
สุดท้ายผมก็ปิดมันครับ ยอดหนี้ 5 แสนกว่าๆ 14 รายการ ผมปิดได้แค่ 2 แสนกว่าๆ ถึงแม้ว่า KTC ผมต้องขึ้นโรงขึ้นศาลก็ตามแต่สุดท้ายก็จบได้ครับ และตอนนี้ผ่านมาปีครึ่งๆ ผมก็สามารถซื้อบ้านได้แล้วครับ (บ้านเอื้อ) ดังนั้นอย่าไปกังวลเรื่องเครดิตบูโรมาก เดี๋ยว 3 ปีก็รีเซตใหม่
เน้น...หากหยุดต้องหยุดจ่ายทันที หยุดจ่ายทั้งหมดทุกๆที่ แล้วไม่ต้องไปจ่ายขั้นต่ำ หรือให้กับ สนง ทั้งนั้นเพราะมันจะทำให้ระยะเวลาคดีความยืดไปอีก และดอกเบี้ยมันจะบานๆๆๆๆๆ ขึ้นด้วยครับ
ที่สำคัญหากอายุความเกิน 2 ปี นับจากวันที่เราหยุดจ่าย หากทางธนาคารไม่ฟ้อง ภายใน 2 ปี นั่นแปลว่าเราไม่ต้องจ่ายเงินเขาครับหรือหนี้เป็นศูนย์นั่นเอง ดังนั้นเก็บเอกสารการชำระไว้ดีๆๆครับ อย่าทิ้งนะครับ (แต่ก็อย่าหวังให้มากครับ ประหยัด อดออม เก็บตังไว้ใช้สำหรับครอยครัว และใช้หนี้ด้วยจะดีกว่านะครับ)
ปล. หวังว่าคงไม่ทำให้เพื่อน สับสนอีกนะครับ และขอให้ผ่านพ้นไปได้ครับ สู้ๆๆ เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณนะครับ ที่กลับมาแก้ไขคำพูดให้เพื่อนสมาชิกได้เข้าใจ....

ก็อย่างที่บอกไว้หลายๆครั้งแล้วครับ...ถ้าใครจะคิดหักดิบหนี้ ก็ต้อง อ่าน

ทำความเข้าใจ ในกระทู้ปักหมุด ทุกกระทู้ อ่านทุกห้อง อ่านให้มากที่สุด

ถ้าเข้าใจทุกตัวอักษร ทุกกระเบียดนิ้วของข้อมูลที่ชมรมฯมีให้ศึกษา....

คนนั้นก็จะไม่กลัวกับการจัดการหักดิบหนี้อีกต่อไป.... เลยล่ะครับ....


ข้อมูลที่คุณเขียนมา ก็เป็นพื้นฐานที่ชมรมฯแนะนำกันแทบทุกวันนั่นแหละครับ....

ถ้าอยากจะแชร์ประสบการณ์ รบกวนตั้งกระทู้ของตัวเอง ในห้องเรื่องเล่าชาวหนี้

แล้วเล่ารายละเอียดให้ฟังหน่อยสิครับ.....ขอบคุณนะครับ......

ขอขอบพระคุณคุณ rode-emply สำหรับข้อมูลค่ะ(ถึงแม้ว่าจะเหมือนกับที่ชมรมฯ มีอยู่แล้ว)...และขอให้เข้าไปแชร์ประสบการณ์เยอะๆนะคะ เผื่อจะได้นำมาปรับใช้กันค่ะ
.................................
..สำหรับเช้าวันนี้เจอกันแต่เช้า สำหรับ UOB เสียงผู้หญิง บอกชื่อตัวเองโคตระเร็วมาก (ไม่รู้จะรีบอะไร) เราเลยถามกลับไปว่า...ชื่ออะไรนะคะ..คุณเธอก็ยังจะพูดชื่อตัว(มัน)เองเร็วเหมือนเดิม แต่พอพูดคำว่า UOB พูดซะช้าและชัดมาก (สงสัยมันจะกลัว) เราเลยขี้เกียจบอกไปเลย "ยังไม่มีจ่ายค่ะ" มันยังพูดว่า "ไม่ทราบว่าสิ้นเดือนได้มั้ยคะประมาณ 1700" (พูดห้วนมากๆ) เราพูดห้วนกลับไปเลย "ไม่มีจ่ายค่ะ" (กะแบ่บจะเอาเรื่องมันละ...) นี่ save เบอร์มันไว้เลยแหละ...เดี๋ยวคราวหน้าก่อนเถอะ (ฝากไว้ก่อน)....ฮึ่มมมมมม....
....................................

rode-empty เขียน: ที่สำคัญหากอายุความเกิน 2 ปี นับจากวันที่เราหยุดจ่าย หากทางธนาคารไม่ฟ้อง ภายใน 2 ปี นั่นแปลว่าเราไม่ต้องจ่ายเงินเขาครับหรือหนี้เป็นศูนย์นั่นเอง

กอบัวขอขอบคุณ คุณ rode-empty ที่กลับมาเล่าการปลดหนี้ของตัวเองให้เพื่อนๆฟัง
แต่อยากจะขอท้วงติง และขอแก้ไขความเข้าใจตรงนี้ใหม่นะคะ

การที่คดีไหน "ขาดอายุความหรือหมดอายุความ" ไปแล้ว ธนาคารฟ้องไม่ทัน ไม่ได้หมายความว่า "หนี้ไม่ต้องชำระนะคะ หรือหนี้จะกลายเป็นศูนย์ เป็นความเข้าใจผิด และตีความเข้าข้างตัวเองมากๆ
แม้จะขาดอายุความไปแล้ว เจ้าหนี้มีสิทธิ์ฟ้องร้องคุณได้ตลอด แต่เมื่อมีการฟ้องแล้ว คุณจะต้องไปแย้งกับศาล และขอสู้คดีว่า คดีนี้ "ได้ขาดอายุความไปแล้ว"
มิฉะนั้น แม้ศาลจะเห็นว่าคดีของคุณขาดอายุความ แต่คุณหนีศาล ศาลจะเห็นว่าคุณไม่ใส่ใจในผลประโยชน์ของคุณ ศาลจะพิพากษาตามโจกท์ฟ้องทุกประการ (แม้จะขาดอายุความไปก็ตาม)
หมายความว่า ต่อให้คุณเป็นหนี้เขาแค่ หมื่นเดียว แต่เจ้าหนี้หน้ามึนฟ้องคุณ หนึ่งแสน คุณก็ต้องจ่ายตามนั้น

และอีกประเด็น แม้คุณจะไปสู้เรื่องอายุความขาดหรือหมดไปแล้ว หนี้ก็ยังชดใช้ เพียงแต่เจ้าหนี้ไม่มีอำนาจ หรือไม่มีดาบที่จะไล่บี้ลูกหนี้แบบเราที่ขาออายุความไปแล้ว แต่เขายังสามารถทวงหนี้ได้ตลอดไปจนตาย (ก็กฎหมายไม่ได้ห้ามทวงหนี้นี่ค๊ะ)
อ้างอิงจากกระทู้นี้ debtclub.consumerthai.org/index.php?option=com_kunena&func=view&catid=7&id=813&Itemid=29 อายุความในการฟ้องร้อง คดีแพ่ง (หนี้เงิน) By: พี่นกกระจอกเทศ
และเครดิตบูโรของคุณ ถ้าไม่ชำระ มันก็จะฟ้องอยู่แบบนั้นตลอดไป
เป็นหนี้เขา เราก็ต้องชดใช้ แต่ต้องด้วยราคาที่เหมาะสม แต่หนี้ที่ขาดอายุความ ส่วนใหญ่เราจะพลิกกลับมามีอำนาจต่อรองเจ้าหนี้มากกว่า ถือแต้มต่อเหนือกว่า
สมาชิกบางท่านจะเก็บหนี้ที่ขาดอายุความไปแล้ว เป็นบัญชีสุดท้ายที่จะชำระ
แต่ปัจจุบันด้วยการจัดเก็บข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์ การที่จะมีคดีขาดอายุความจึงเป็นไปได้ยาก
แต่หนี้...ที่เราไปเอาเขามาจริง เราต้องชดใช้ค่ะ

ฉะนั้น...ให้สมาชิกที่หยุดจ่าย "หมั่นเช็คหมายศาล" ของตัวเอง ว่าเจ้าหนี้ฟ้องหรือยัง แอบฟ้องหรือไม่
ทำบัญชีออกมาว่า เราหยุดจ่ายไปเมื่อไหร่ จะได้เข้าใจเรื่องอายุความ
การที่สมาชิกใช้เส้นทางในการหยุดจ่าย นอกจากทำการบ้าน ทำความเข้าใจเรืองแนวทางของชมรมแล้ว ให้หมั่นทบทวนหาความรู้เป็นประจำสม่ำเสมอ
อ่านบ่อยๆ อ่านมากๆ สงสัยอะไรให้ถาม อย่าตีความเข้าข้างตัวเอง
เพราะเส้นทางนี้ กรรมการตั้งแต่คุณอาไพโรจน์ ไล่เรียงมาตั้งแต่รุ่นแรก จนรุ่นแปด เราเอาตัวเข้าแลก เจ็บจริง ช้ำจริง และได้ผลจริงกันมา
เว็บแห่งนี้ จะดุ ท้วงติง ว่ากล่าวตักเตือน ก็ด้วยเรื่องหนี้มันเป็นของจริง ที่คุณจะมาทำเล่นๆไม่ได้
อีกทั้งความรู้ทั้งหมดที่เราให้ ก็ "ฟรี" ไม่มีค่าใช้จ่าย
กรรมการไม่เคยขอร้องอามิสสินจ้างใดๆจากสมาชิก
ขอแค่สมาชิกแก้ไขปัญหาหนี้ได้อย่างถูกต้อง มีชีวิตที่กลับมามีความสุข ตั้งใจทำงาน มีครอบครัวที่ดี มีรอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้า เราก็สุขใจ

ขอบพระคุณพี่บัวมากๆเลยค่ะ...(จัดเต็มเลย)...ดีค่ะ อ่านแล้วเหมือนยังมีคนเข้าใจและให้กำลังใจแบบสู้สู้นะโว๊ยยยย(อะไรทำนองเนียะ)...พี่ๆ และเพื่อน ๆ ณ ที่นี้ทุกคนต้องการให้ทุกๆ คนที่เป็นหนี้ "หมดหนี้ แบบสมบูรณ์และถูกต้อง" (เห็นด้วยๆ) แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของจำนวนหนี้, ระยะเวลา, วิธีการ และข้อที่สำคัญที่สุด "เก็บเงินสดในมือ" สำหรับปลดหนี้ให้มากเข้าไว้ (ในกรณีไม่มีเหตุฉุกเฉินจริงๆ) เพื่อจะได้เป็น "ไท" ในเร็ววันค่ะ...

ว่าแล้วอันตัวเราก็กำลังจะเข้างวดที่ 3 ละ สงสัยต้องลองแว๊บๆๆไปศาลเขตตามที่อยู่(ทะเบียนบ้าน)มั่งอ่ะค่ะ...กลัวเจ้าหนี้แอบฟ้องแล้วเราไม่รู้อ่ะค่ะ

งานนี้ห้ามเล่น เพราะต้อง "เจ็บ(ใจ)จริง + จบ(หนี้)จริง" ด้วยตัวเองให้ได้ (แต่ก็แอบกลัวพลาด)

บางครั้งก็เหมือนกับตัวเองยังไม่ค่อยจะเข้มแข็งดีในเรื่องของการทำความเข้าใจเรื่องศาลน่ะค่ะ
นี่ขนาดพยายามเข้าไปอ่านห้องรู้ทันกฎหมายซ้ำไปซ้ำมาแล้วนะเนี่ย
สงสัยต้องหาเวลาหอบเอาเอกสารไปหาคุณอาและพี่ ๆ เพื่อน ๆ ที่สวนลุมฯ บ้างแล้ว
(อ่านไม่ค่อยเข้าใจ ไปแบบถึงตัวให้เขกกะโหลกโง่ๆ ตัวเองอาจจะเข้าหัวและเข้าใจขึ้น) เฮ้อออออ..

mlek เขียน: สรุปรายงานของตัวเองจากบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เมื่อวันที่ 21/03/2555 มีหนี้ดังนี้
1. HSBC -- สินเชื่อบุคคล --- 97,740.- (ข้อมูล ณ 29/02/2555)
2. CIMBT -- สินเชื่อบุคคล --- 125,263.-
3. UOBT -- บัตรเครดิต --- 41,571.-
4. SCBT -- สินเชื่อบุคคล --- 85,210.-
5. SCBT -- บัตรเครดิต --- 22,232.-
6. SCBT -- สินเชื่อวงเงินเบิกเกินบัญชี --- 65,745.-
7. KBANK -- บัตรเครดิต --- 54,393.-
8. KBANK -- สินเชื่อบุคคล --- 27,794.-
9. TMB -- สินเชื่อบุคคล --- 66,738.-
10.KTC -- สินเชื่อบุคคล --- 63,149.-
11. Central Card -- บัตรเครดิต --- 25,838.-
12. ซิตี้ แอดวานซ์ -- สินเชื่อบุคคล --- 75,776.-
13. หนี้บุคคล (ไม่มีดอกฯ แต่ต้องผ่อนจ่าย/เดือน ๆ ละ 7,000.-) คงเหลือ 54,000.-

รวมเบ็ดเสร็จน่าจะอยู่ราว ๆ 800,000.- บาท (โดยประมาณ) T_T

คิดหยุดจ่ายเดือน เมย.55 นี้เป็นต้นไปค่ะ ... เงินเดือน 30,000.-/เดือน

...

ตามข้อมูลข้างต้น คุณ mlek ไม่มีเจ้าหนี้ที่มักฟ้องเร็วนะค่ะ (CITI BANK)
และคุณเพิ่งหยุด เมื่อเดือนเมษา 55 นะค่ะ ใจเย็น ๆ ค่ะ ข้อมูลมีไว้เพื่อ
สร้างภูมินะค่ะ ไม่ใช่กลัวค่ะ