คุณนายตกสวรรค์ พร้อมกับหนี้ 4 ล้านบาท

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #4910 โดย ntps


การแสดงออก แสวงหาซึ่งความรักหาใช่เพียงแค่ การไขว่คว้า หาตัวช่วย
พึ่งพาโชค เว้าวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์(ในสากลโลก) หรือมอบของขวัญ
ที่ต่างทำให้ต่างฝ่ายต่างประทับใจ อินเลิฟกันให้มากขึ้นๆยิ่งขึ้นไปอย่างเดียวไม่

เพราะหลังจากวันแห่งความรักไปไม่พ้นข้ามวันหรือถัดจากนั้นก็ยังคงเห็นคู่รัก
หลายๆ คู่ทะเลาะ ไม่เข้าอกเข้าใจ แง่งอน แอบนอกใจ หรือเลวร้ายสุดก็เลิก
กันไปเสียหลายคู่ กลายเป็นคนอกหัก รักคุด หัวใจชำรุด ไปในที่สุด

แต่ทว่า ความรักที่ไม่มีนิยามใดตายตัว น่าจะอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจ
การยอมรับตัวตน และความมั่นคงทางจิตใจ ซึ่งกันและกันมากกว่า
ไม่เพียงแต่เฉพาะแสดงออกต่อกัน แค่วันวาเลนไทน์เท่านั้น
ความรักเกิดขึ้นได้ทุกวันเพียงอยู่ที่ว่า เราจะหันไปให้ความสำคัญกับสิ่งใดมากกว่า
และคนเคียงข้างจะจับมือเดินไปฝ่าอุปสรรค ทั้งทุกข์และสุขจนกว่า
จะหมดวาระสุดท้ายของชีวิตหรือไม่
เหนือสิ่งอื่นใด อย่าละเลยความรักจากคนใกล้ตัว อย่างคนในครอบครัวเป็นดีที่สุด
และรักไหนคงไม่มีคุณค่าเท่าการรักตัวเอง


ขอให้ทุกๆ คนสมหวังในรัก....

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5109 โดย ntps
มีหลายสายด่วนถามว่า ข้อเสนอลดแค่นี้พอไหม สถานะขายหนี้ไปแล้ว
ฟ้องได้ไหม ลดได้ไหม แก้วจ๋าขอหยิบยกบางส่วนของท่านประธานที่
เขียนไว้ดีมาก ในห้องรู้ทันกฎหมายหนี้มาให้อ่านคร่าวๆ ค่ะ แต่อยาก
ให้ไปอ่านฉบับเต็มกันนะค่ะ


"นิยาม" ของคำว่า Hair-cut "
(แต่แก้วจ๋า ขอเรียกว่า ข้อเสนอส่วนลดนจากเจ้าหนี้ค่ะ)

Hair-cut ก็คือการจ่ายชำระมูลหนี้ ที่มีการค้างชำระกันไว้ระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้
โดยมีข้อตกลงเจรจาเป็นการนำเสนอที่จะทำการลดมูลหนี้ที่คงค้างกันอยู่...ว่า
จะมีการลดหนี้ให้เป็นจำนวนเท่าไหร่?
โดยคิดจากมูลหนี้ที่คงค้างทั้งหมด จากยอด ณ.ปัจจุบัน (ณ.วันนี้ / ณ.วินาทีนี้)


แต่กระบวนการ Hair-cut นี้ มิได้เกิดขึ้นได้โดยง่าย
ต้องผ่านการบ่มระยะเวลามายาวนานพอสมควร โดยมีสูตรดังนี้

ต้องหยุดจ่ายซะก่อน ถึงจะเกิดกระบวนการ Hair-cut ขึ้นได้

ยิ่งหยุดจ่ายนานเท่าไหร่...หนี้ก็ยิ่งเน่ามากขึ้นเท่านั้น

หนี้ยิ่งเน่ามากเท่าไหร่...ก็ยิ่งได้ส่วนลดมากขึ้นเท่านั้น
เพียงแต่อยากให้มองว่า เงื่อนไขที่ทางเจ้าหนี้เสนอมานั้น
เราจ่ายไหวไหม? น่าสนใจและรับได้หรือเปล่า?
อย่าไปมองเพียงแค่ต้องการให้ได้ส่วนลดเยอะๆเพียง
อย่างเดียวเท่านั้น ให้พิจารณาว่าถ้าเราจ่ายไปแล้ว
เราจะได้ลดเจ้าหนี้ไปอีกหนึ่งราย (ได้ลดศัตรูในการทวงหนี้ไปแล้วอีกหนึ่งที่)
ที่เหลือก็ค่อยๆมาปลดหนี้ทีละรายต่อไป ตามกำลังและความสามารถ

(แต่ต้องจ่ายไหวจริงๆนะ ห้ามไปกู้หนี้ยืมสินที่ต้องเสียดอกเบี้ยจากที่อื่นมาปิด
Hair-cut อีก มิฉะนั้น มันจะไม่มีวันจบสิ้น)...ถ้าสามารถทำได้เช่นนี้
ก็จะสามารถปลดหนี้ได้โดยเร็ววัน



- ทางเจ้าหนี้มีการขายหนี้ของเรา ให้กับสำนักงานทวงหนี้ข้างนอก
ในราคาถูกๆไปแล้ว เนื่องจากขี้เกียจตั้งทุนสำรองหนี้สูญ
(อาจขายหนี้ไปประมาณสัก 2-3 หมื่นบาท จากราคาหนี้ ณ.ปัจจุบันที่
100,000.-บาท) เพื่อให้สำนักงานทวงหนี้ ไปทวงต่อเอาเองแล้วแต่จะได้
ดังนั้น ถ้าสำนักงานทวงหนี้เสนอราคาให้เรา 60,000.-บาท ในการทำ
Hair-cut...ตัวมันเองก็ยังได้กำไรจากส่วนต่างนี้ตั้ง 3-4 หมื่นบาท)


หากคุณคิดจะอยากได้ส่วนลดมากๆๆ 50% up คุณคงต้องเสี่ยงกับการ
ถูกฟ้อง เพราะของกว่าจะเน่ามากๆๆ ต้องใช้เวลานานค่ะ

ตามที่แก้วจ๋าเล่าประวัติหนี้ของตัวเองข้างต้น บางรายก็ได้ส่วนลดใน
การปิด 50% หรือเกือบ 60% ค่ะ ซึ่งส่วนมากเป็นพวก Non-bank
แต่ระยะหลัง ได้ส่วนลดน้อยลง แต่ยังปิดได้ เพราะความพร้อม โดยคิดว่า
1. จ่ายปิดต่ำกว่ามูลหนี้ของเราตอนหยุด
2. ถือว่า หมดกรรมกับเจ้าหนี้ไปอีกราย
3. ถ้าไม่จ่ายตอนนี้ ยอดหนี้อาจเพิ่มขึ้นเกินกว่าความสามารถจะหาเงินมาปิดได้ค่ะ

เราอาจให้คุณมีแนวทางในการคิด แต่เราไม่สามารถบอกได้ว่า คุณควรรับข้อเสนอ
เขาไหมค่ะ เพราะมันขึ้นอยู่กับ

1. กระเป๋าตังส์ของคุณ
2. ความสามารถในการออม และหาเงินของคุณ
3. มีปัจจัยอื่นที่ต้องใช่เงินไหม ภาระมากไหม เป็นต้นค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5110 โดย ntps
อีกเรื่องที่อยากเล่าค่ะ ตั้งแต่เริ่มหยุดชำระหนี้ 2ปีกว่า สิ่งหนึ่งที่แก้วจ๋า
ทำมากกว่า ตอนที่ยังไม่รู้ว่า ตัวเองเป็นหนี้มากมายค่ะ คือ การทำบุญค่ะ

สำหรับแก้วจ๋า การไปวัดนั้น ต้องเป็นภาคบังคับจากคุณแม่ และน้องสะใภ้
ที่พวกเขาขยันไปประจำค่ะ แต่หากบอกว่า อยู่ๆ เดินไปวัดเองทุกวัน ทุก
อาทิตย์ ก็ไม่มีแน่นอน ยกเว้น วันสำคัญเช่น วันเกิด วันระลึกคุณพ่อเสียค่ะ

แต่พอแก้วจ๋าเริ่มพยายามหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน หรือจิตตก
เรื่องหนี้ โดยเริ่มจากใช้วิธีสวดมนต์ ไปช่วยคนเป็นหนี้ที่สวนลุม และหมั่น
ทำบุญทุกครั้งที่มีโอกาส เช่น พี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ มาชวนทำบุญค่ะ
สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองคือ เรามีสติ พอเรามีสติ เราก็สามารถเข้าใจ และ
เจอทางออกของปัญหาได้ค่ะ ไม่ว่าเจ้าหนี้จะมาแบบไหน แก้วจ๋าก็จะใช้
สติ คิดหาทางปลดหนี้ หาทางเจรจากับคนที่สามารถช่วยเราได้ค่ะ เรียก
ว่า ดิ้นรนจนเจอค่ะ และไม่รู้ว่า เป็นเพราะอนิสงฆ์ของบุญที่ทำมาหรือ
เปล่า แก้วจ๋าเจอคนทวงถ่อยมากๆ แค่ 1คน ส่วนมากถ้าเขามีทัศนคติ
ไม่ดีแต่ยังพูดกับเราไม่ถ่อย ก็จะพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่า อะไร
คือปัญหาของเรา และเขาควรมีมารยาทการทวงแบบไหน ที่ไม่ขัดต่อ
ประกาศของแบงค์ชาติค่ะ เพราะบางคนเขาไม่รู้จริงๆ ค่ะ

การส่งบุญหรือเพิ่มพลังบุญให้กับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมากมายแต่
ให้ทำเป็นประจำจะดีที่สุดค่ะ บุญที่ยิ่งใหญ่คือ บุญที่เราได้จากการ
ช่วยเหลือโดยสุจริตใจกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงค่ะ

ขอฝาก วิธีเพิ่มพลังบุญทวีคูณให้กับชีวิตอย่างง่ายๆ ค่ะ



1. การเพิ่มพลังบุญแบบไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว

เคล็ดวิชานี้ เป็นของท่านหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านสอนไว้ว่า
- เวลาตื่นเช้ามาขณะล้างหน้าหรือดื่มน้ำให้ท่องว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตในวันใหม่
- ก่อนกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวแด่พระพุทธเจ้า
- ออกจากบ้าน เห็นคนอื่นเค้ากระทำความดี เป็นต้นว่าเห็นเค้าใส่บาตรพระ
จูงคนแก่ข้ามถนน ก็ให้นึกอนุโมทนากับเขาด้วย
- เดินผ่านเห็นดอกไม้บูชาพระวางขายอยู่ ก็ให้เอาจิตนึกอธิษฐานขอ
ถวายดอกไม้เหล่านั้นเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยระลึกว่า พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ แล้วอย่าลืมอุทิศบุญให้พ่อค้า แม่ค้าดอกไม้นั้นด้วย
- เวลาไปไหนมาไหน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมถวายไฟเหล่านั้น
บูชาพระรัตนตรัย โดยระลึกว่า โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธัมมะบูชา สังฆบูชา

2. การเพิ่มพลังบุญด้วยเงินน้อย แต่ได้อานิสงส์ยิ่งใหญ่
การสร้างบุญที่เป็นมหากุศล อาทิเช่น การสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่
พระมหาเจดีย์ สร้างยอดฉัตรหรือสร้างศาสนสถานอื่นใดก็ตาม รวมถึงธรรมทานด้วย
เพื่อลดวิบากกรรมหนักๆ สามารถทำได้ แม้แต่ผู้ที่มีเงินน้อย การทำบุญนี้
ไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินมาก เหมือนที่หลายๆคนในปัจจุบันเข้าใจและติดเป็นค่านิยมกัน
การทำบุญทุกอย่าง ไม่ว่าจะบุญเล็ก บุญใหญ่ ให้ทำตามแต่กำลังของเราที่สามารถ
จะทำได้ และต้องไม่เดือดร้อนตัวเอง แม้แต่เงินสลึงเดียวก็สามารถสร้างมหากุศลได้
ขอให้เพียงเงินนั้นบริสุทธิ์ ไม่ได้ไปเบียดเบียนของใครมาก็พอ และที่สำคัญเจตนาตอนที่ทำ
ต้องบริสุทธิ์ มีความยินดีในบุญที่ทำ เกิดความสุขและความอิ่มเอมใจ นั่นแหละมหากุศลทั้งสิ้น

แต่ถ้าไม่มีเงินจริงๆ ก็ยังสร้างมหากุศลได้ โดยการใช้แรงกายแรงใจในการช่วยก่อสร้าง
หรือแม้แต่การไปชักชวน ป่าวประกาศให้คนมาร่วมสร้างบุญ และขออนุโมทนาบุญกับ
คนเหล่านั้นด้วยทุกครั้ง ก็จะได้บุญมากเช่นเดียวกัน อยู่ที่เจตนาและความตั้งใจเป็นที่ตั้ง

สรุปสั้นๆ ว่า การทำบุญนั้น ไม่ว่าจะเป็นเงินเท่าใดก็ได้บุญเช่นกัน ยิ่งการทำบุญใดๆที่
เป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมากมากหรือสังคม บุญนั้นก็จะมากขึ้นทวีคูณ ไม่มีวันหมด
อาทิเช่น สังฆทาน สร้าง โรงทาน วิหาร อุโบสถ ถนน เป็นต้น จนกว่าสิ่งก่อสร้างหรือ
ศาสนสถานนั้นๆที่ร่วมสร้างจะพังทลายไป

3. การสวดภาวนา ให้ได้บุญมากขึ้น
การสวดภาวนา คาถาศักดิ์สิทธิ์ หรือมนตราอันศักดิ์สิทธิ์นั้น ถ้าได้ทำอย่างถูกวิธีนั้น
จะเป็นการเพิ่มบุญให้กับตัวเอง เพราะพลังบุญ พลังอำนาจของพระคาถาและมนตรานั้น
จะถูกดึงเข้าสู่ตัวผู้สวดด้วย

เคล็ดวิธีมีอยู่ว่า โดยก่อนสวดนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิที่พร้อมจะสวดแล้ว ขอให้ตั้งจิตให้มั่น
แล้วอุทิศบุญทั้งหมดที่ตนเคยทำมานั้น ส่งให้แด่ครูบาอาจารย์ ผู้เป็นเจ้าของคาถาหรือ
มนตรานั้นๆด้วย ซึ่งเป็นการเชื่อมบุญรูปแบบหนึ่ง และหลังจากนั้น ก็อธิษฐานขอมี
ส่วนร่วมในบุญของท่าน และขอมีส่วนร่วมในบุญของผู้อื่นที่ได้สวดคาถาและม
นตราศักดิ์สิทธิ์นั้นด้วย เมื่อใดตามที่มีคนอื่นสวดและกระทำเหมือนกับเรา
เราก็ได้บุญเพิ่มทุกครั้ง

4. การทำบุญด้วยการต่อชีวิตสัตว์ ให้ได้บุญมากขึ้น
การทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์หรือต่อชีวิตสัตว์นั้น หลายคนเรียกว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์
ซึ่งก็แล้วแต่จิตจะพาไป แต่ในความเป็นจริงก็คือ เป็นการทำบุญใหญ่ เป็นการช่วยต่อชีวิต
ต่อโชคชะตา ให้เวลากับสัตว์ที่กำลังจะถึงตายให้ได้มีชีวิตอีกครั้ง และเคล็ดลับสำคัญก็คือ
ก่อนที่จะปล่อยสัตว์นั้นๆ เมื่อได้ซื้อมาหรือเจอ ณ ที่ใดก็ตาม ให้นำไปถวายกับพระสงฆ์เสียก่อน
เพื่อเพิ่มบุญให้มากขึ้น เหตุเพราะว่าพระสงฆ์ที่รับนั้นท่านบริสุทธิ์ และมีศีลมากกว่าเรา
ท่านย่อมมีบุญมากกว่าเรา ยิ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญมากแล้ว บุญนั้นจะเพิ่มเป็นหลายเท่า
จากนั้นก็ขอผาติกรรมชำระหนี้สงฆ์ซื้อคืนมาจากท่าน ด้วยเงินเท่ากับจำนวนที่เราซื้อสัตว์นั้นๆมา
วิธีนี้เป็นการเพิ่มบุญอีกเท่าตัว ได้ทั้งทำบุญต่อชีวิตสัตว์ และชำระหนี้สงฆ์ด้วย หลังจากนั้นก็นำ
ไปปล่อยในที่อันสมควร

อานิสงส์ของการทำบุญด้วยวิธีนี้ ถ้าใครที่ทำได้ตามนี้ บุญที่ได้จะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า
จากการที่ไปซื้อมาแล้วก็ไปปล่อยตามยถากรรม วิธีนี้นอกจากได้บุญน้อยแล้ว
แถมยังได้บาปกลับมาด้วย ดังนั้นจะทำบุญทั้งที ควรฉลาดในการทำบุญด้วย

5. การทำสังฆทานให้ได้อานิสงส์บุญมากขึ้น
การทำสังฆทานควรทำให้ครบทั้งปัจจัยสี่ มีอาหาร( คาว-หวาน-ผลไม้-น้ำ ) ,
เครื่องนุ่งห่ม ( ผ้าไตรจีวร หรือ ผ้าขนหนูสีสุภาพ ) , ยารักษาโรค , ที่อยู่อาศัย
( บ้านหลังเล็กๆ ซื้อได้ตามร้านสังฆภัณฑ์ เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยทิพย์ให้กับ
เจ้ากรรมนายเวร เค้าจะได้มีที่พักพิง ไม่มารบกวนเราอีก ) และควรเพิ่ม
หนังสือธรรมะเข้าไปด้วยเพื่อให้จิตใจของเจ้ากรรมนายเวรซึ้งในรส พระธรรม
มีจิตใจที่เย็นสบายพ้นทุกข์

เคล็ดลับสำคัญ เครื่องสังฆทานและอาหารเหล่านี้ เราควรที่
จะต้องไปถวายแด่พระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญสูง แต่ถ้าหาไม่ได้หรือไม่ทราบ
ให้เรานั้นตั้งจิตอธิฐานถวายแด่พระพุทธเจ้าโดยตรงและ พระปัจเจกพุทธเจ้า
พระอรหันต์ หรือครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ เพื่อให้อานิสงส์ของบุญจะได้มากขึ้น
ทบทวี และหลังจากนั้นก็ให้อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งหมด
และควรกรวดน้ำหลังทำบุญทุกครั้งเพื่อให้พระแม่ธรณีและเทพเทวาทั้งปวงท่าน
เป็นพยานในการทำบุญครั้งนี้


สรุป
เมื่อท่านได้ทราบว่า ทำบุญอะไร แล้วได้รับอานิสงส์ของการทำบุญเป็นอย่างไร
สมควรช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้อื่นได้ทราบด้วย เพราะเป็นการให้คนได้รู้ถึงอานิสงส์
ของทำบุญในแต่ละอย่าง จะได้จำสืบต่อกันไปอย่างถูกต้อง

ดังนั้น จึงสรุปว่า การทำบุญอะไรก็ตาม เมื่อได้ทำบุญแล้ว ก็ได้รับผลบุญในทันที
กล่าวคือ ขณะที่ทำบุญนั้น สภาพจิตของเราตรงนั้นเป็นอย่างไร สุขใจไหม สบายใจไหม
ภูมิใจไหม ตรงนี้ไม่ต้องถาม หวังว่า ท่านที่เคยทำบุญมาแล้วก็จะตอบตนเองได้อย่าง
แจ่มแจ้งทีเดียว

เมื่อเราได้ทำบุญ ผลของการทำบุญ จะให้อานิสงส์ไม่เหมือนกัน บุญบางอย่าง
ก็ให้ผลโดยตรง แต่บุญบางอย่าง ก็ให้ผลโดยอ้อมไม่ตรงทีเดียว ในเรื่องนี้
แสดงให้เห็นว่า อานิสงส์แห่งการทำบุญนั้นไม่เหมือนกัน และผลบุญที่เราได้ทำนั้น
รอให้ผลอยู่ตลอดเวลาแก่ผู้ที่ได้ทำบุญไว้ ตราบเท่าที่ยังมีผลบุญอยู่ สำหรับผู้ที่ไม่ได้
ทำบุญไว้ ถ้าไม่ประมาท ถึงแม้ไม่มีอะไรจะทำบุญ เพียงแต่เห็นคนอื่นเขาทำบุญ
แล้วทำใจให้เลื่อมใส ก็เป็นอันได้ทำบุญเหมือนกัน บุญชนิดนี้ เรียกว่า
บุญด้านปัตตานุโมทนามัย ( บุญจากการอนุโมทนาบุญ )

ขออนุโมทนาบุญผู้ที่เผยแพร่ ธรรมทานครั้งนี้

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Ly89, Mommyangel, Pych, Skynine

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5232 โดย คุณนายบ้านนอก
:shy: :shy: :shy: เข้ามาอ่านกระทู้ของคุณแก้วจ๋าแล้ว ... ให้สงสัยว่าเงินเดือนเท่าไหร่คะ แต่ละเดือนจ่ายหนี้ไปหมดเลย งี้ก็ลำบากแย่สิคะ...เราก็เป็นหนี้เหมือนกันแต่ตอนนี้เป็นไทแล้วทุกบัตร..เป็นกำลังใจให้ค่ะ


kaewja เขียน: มาถึง K ตัวสุดท้าย KTC กรุงไทย มีบัญชีทั้งหมด 5 บัญชี บัตรเครดิต 4 ใบ สินเชื่อ 1 แก้วจ๋าเป็นลูกค้าชั้นดีเยี่ยมมากว่า 10ปี ไม่เคยขอบัตรแต่ก็ส่งบัตรมาให้เรื่อยๆๆ เราจะได้เป็นหนี้มากๆ เป็นอีก 1แบงค์ไทย ที่พูดยากส์

KTC กรุงไทย

แบงค์ของรัฐบาลที่ขอบัตรเครดิต หรือสินเชื่ออนุมัติได้ง่ายที่สุด แก้วจ๋าได้บัตรเครดิตมา 4 ใบ ไล่ตั้งแต่ระดับธรรมดาจนถึง Platinum (ณ ขณะนั้นค่ะ) เคยถามว่า ให้มาทำไม เขาว่า ฐานะลูกค้าที่ดี ไม่ใช้ไม่ว่า ฟรีค่าธรรมเนียมทุกบัตรตลอดชีพอยู่แล้ว ลูกค้ามีแต่ได้ไม่มีเสีย ถ้าแก้วจ๋ามีวินัยการเงินที่ดี คงไม่หลงทาง ใช้ทุกบัตรกดเงินสดมาหมุนค่ะ เพราะที่นี่เขาคิดทั้งค่าดอกเบี้ยที่ 15% บวกค่าธรรมเนียมค่าใช้วงเงินอีก 5% รวม 20% ถ้ากดเงินมาคิดครั้งละ 3% บวกค่าธรรมเนียมอีก ตกดอกเบี้ยต่อเดือน 30-40%
แต่พอเรามีปัญหา ต้องการความช่วยเหลือเรื่องหนี้ กลับไม่สนใจช่วย แถมคุยยากส์ ลดยากส์

การทวงหนี้แย่มาก ชอบขู่ และแถมชอบหลอก เช่น กำลังอยู่ระหว่างนำสืบพยาน แต่ยังไม่ถึงวันนัดหมาย ก็โทรมาบอกว่ามีคำพิพากษาออกมาแล้ว กำลังส่งไปที่บ้านและหากไม่จ่ายวันนี้ ก็จะส่งบังคับคดี เล่นมุกร้ายทำให้ต้องโทรถามที่ศาลว่า คำพิพากษาออกมาได้ยังไง ยังไม่สืบ เดี๋ยวฟ้องศาลเป็นจำเลยซะเลย สรุป ถูกหลอก แก้วจ๋าไม่ปล่อยไว้หรอกค่ะ จัดหนัก ข้อหาล่วงละเมิดอำนาจศาล มาเป็นศาลเตี้ยแทนได้ไง ร้องเรียนธปท และKTC โดยตรง ใช้บริการชั่วจากสำนักงานนี้ ทำให้KTC หมอง มีแต่เสีย ตั้งแต่นั้นมาก็ติดต่อตรงกับ KTC ค่ะ ก่อนหน้านี้ KTC ชอบบ่ายเบี่ยงไม่คุยกับลูกหนี้
( แต่ถ้าเจ้าหนี้รายไหน ไม่ยอมคุยกับลูกหนี้ แจ้งธนาคารแห่งประเทศไทยได้นะค่ะ เพราะธปท. ฝากบอกว่า ตามกฎหมายเจ้าหนี้ไม่มีสิทธิปฏิเสธการเจรจากับลูกหนี้ เพราะเราเป็นหนี้เขาไม่ใช่เป็นหนี้กับสำนักงานทวงหนี้ หากเขามอบอำนาจจริง ก็ขอดูเอกสารเลยค่ะ)

ตั้งแต่หยุดจนฟ้อง KTC เสนอส่วนลดน้อยค่ะ อยู่ที่15-30% มาตลอด ที่นี่ชอบส่งหนี้ไปหลายสำนักงาน แก้วจ๋ามีหนี้อยู่ 4บัญชี เธอก็ส่งไป 4 สำนักงาน แยกกันทวง แยกกันเสนอ บางทีสำนักงานหนึ่งเสนอปิดลด 50% แต่พอเราโอเค ก็โทรกลับมาว่า ต้องปิดทุกบัญชี จะปิดทีละบัตรไม่ได้ งง ไม่รู้ว่า ตอนแรกเธอโทรมาเสนอทำไมทีละบัตร ไม่มีอะไรทำมังถึงโทรมากวนอารมณ์ ที่นี่ผ่อนได้สูงสุด 36งวดค่ะ เคยประนอมสินเชื่อก่อนหน้านี้ไปแล้ว ที่ยอดหยุดชำระค่ะ ให้ผ่อน 36งวด ไม่มีดอกเบี้ย แต่พอจ่ายไปสักพักใหญ่ พอขอปิด ไม่มีส่วนลดปิดค่ะ

ยอดหนี้ทั้งหมด ตอนหยุด = 3แสน 7 หมื่น
ยอดฟ้องทั้งหมด (1ปีหลังหยุด) = 4 แสน 6 หมื่น

แก้วจ๋าถูกฟ้องศาลแพ่ง เพราะรวมมูลหนี้แล้วเกิน 3แสนค่ะ เสนอลดเหลือ 3 แสน 9 หมื่น บาท ไม่ให้ผ่อนสักงวดก็ปฏิเสธไป จนสุดท้าย ได้ข้อสรุปที่ยอด 4 แสน 2หมื่น บาท ผ่อน 24งวด 4ใบๆละ 2พัน 5 ร้อยบาท เขาไม่อยากได้เงินเร็ว ก็ผ่อนต่ำๆไปเรื่อยๆ ค่ะ ได้ส่วนลดจากยอดฟ้องไป 3 หมื่นกว่าบาท สุดยอดแบงค์ไทยค่ะ โดยขอเริ่มชำระเดือนถัดไปค่ะ แต่หลังจากยอมความกันเสร็จ ได้รับสายจากสำนักงานเชษ ไม่รู้ว่าไปโผล่ที่นั้นได้ยังไง เพราะตลอดเวลาไม่มีเจ้านี้โทรมาทวงค่ะ มาเสนอลด 50% ทั้ง 4บัญชี เออ เอากับเขาซินะ มีแย่งลูกค้าตัดราคากันด้วยค่ะ แต่พอเราบอกว่า ถ้าได้จริงก็จะจ่าย น้องเขาโทรกลับมาบอกว่า แบงค์ไม่โอเค เนื่องจากทำยอมความกันแล้ว 555 ถ้าใครได้เชษ (ทำดีแล้ว) ทวง ก็คงสบายใจว่า ได้ลดมากๆ แน่ค่ะ
สำหรับ KTC หากแก้วจ๋าไม่ยอมความ แก้วจ๋าก็จะเลือกอุทธรณ์ค่ะ เพราะการคิดดอกเบี้ยของแบงค์เกินเลยมากค่ะ แต่ที่เลือกยอมความ เพราะยังมีความสามารถผ่อนต่อเดือนได้ ไม่เกินกำหนด 30% ค่ะ และเขาเสนอตัวเลขผ่อนต่อเดือนไม่สูงไปสำหรับแก้วจ๋าค่ะ

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5233 โดย moolek

kaewja เขียน: อีกเรื่องที่อยากเล่าค่ะ ตั้งแต่เริ่มหยุดชำระหนี้ 2ปีกว่า สิ่งหนึ่งที่แก้วจ๋า
ทำมากกว่า ตอนที่ยังไม่รู้ว่า ตัวเองเป็นหนี้มากมายค่ะ คือ การทำบุญค่ะ

สำหรับแก้วจ๋า การไปวัดนั้น ต้องเป็นภาคบังคับจากคุณแม่ และน้องสะใภ้
ที่พวกเขาขยันไปประจำค่ะ แต่หากบอกว่า อยู่ๆ เดินไปวัดเองทุกวัน ทุก
อาทิตย์ ก็ไม่มีแน่นอน ยกเว้น วันสำคัญเช่น วันเกิด วันระลึกคุณพ่อเสียค่ะ

แต่พอแก้วจ๋าเริ่มพยายามหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน หรือจิตตก
เรื่องหนี้ โดยเริ่มจากใช้วิธีสวดมนต์ ไปช่วยคนเป็นหนี้ที่สวนลุม และหมั่น
ทำบุญทุกครั้งที่มีโอกาส เช่น พี่ๆ น้องๆ และเพื่อนๆ มาชวนทำบุญค่ะ
สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองคือ เรามีสติ พอเรามีสติ เราก็สามารถเข้าใจ และ
เจอทางออกของปัญหาได้ค่ะ ไม่ว่าเจ้าหนี้จะมาแบบไหน แก้วจ๋าก็จะใช้
สติ คิดหาทางปลดหนี้ หาทางเจรจากับคนที่สามารถช่วยเราได้ค่ะ เรียก
ว่า ดิ้นรนจนเจอค่ะ และไม่รู้ว่า เป็นเพราะอนิสงฆ์ของบุญที่ทำมาหรือ
เปล่า แก้วจ๋าเจอคนทวงถ่อยมากๆ แค่ 1คน ส่วนมากถ้าเขามีทัศนคติ
ไม่ดีแต่ยังพูดกับเราไม่ถ่อย ก็จะพยายามอธิบายให้เขาเข้าใจว่า อะไร
คือปัญหาของเรา และเขาควรมีมารยาทการทวงแบบไหน ที่ไม่ขัดต่อ
ประกาศของแบงค์ชาติค่ะ เพราะบางคนเขาไม่รู้จริงๆ ค่ะ

การส่งบุญหรือเพิ่มพลังบุญให้กับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องมากมายแต่
ให้ทำเป็นประจำจะดีที่สุดค่ะ บุญที่ยิ่งใหญ่คือ บุญที่เราได้จากการ
ช่วยเหลือโดยสุจริตใจกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงค่ะ

ขอฝาก วิธีเพิ่มพลังบุญทวีคูณให้กับชีวิตอย่างง่ายๆ ค่ะ



1. การเพิ่มพลังบุญแบบไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว

เคล็ดวิชานี้ เป็นของท่านหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านสอนไว้ว่า
- เวลาตื่นเช้ามาขณะล้างหน้าหรือดื่มน้ำให้ท่องว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตในวันใหม่
- ก่อนกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวแด่พระพุทธเจ้า
- ออกจากบ้าน เห็นคนอื่นเค้ากระทำความดี เป็นต้นว่าเห็นเค้าใส่บาตรพระ
จูงคนแก่ข้ามถนน ก็ให้นึกอนุโมทนากับเขาด้วย
- เดินผ่านเห็นดอกไม้บูชาพระวางขายอยู่ ก็ให้เอาจิตนึกอธิษฐานขอ
ถวายดอกไม้เหล่านั้นเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยระลึกว่า พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ แล้วอย่าลืมอุทิศบุญให้พ่อค้า แม่ค้าดอกไม้นั้นด้วย
- เวลาไปไหนมาไหน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมถวายไฟเหล่านั้น
บูชาพระรัตนตรัย โดยระลึกว่า โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธัมมะบูชา สังฆบูชา

2. การเพิ่มพลังบุญด้วยเงินน้อย แต่ได้อานิสงส์ยิ่งใหญ่
การสร้างบุญที่เป็นมหากุศล อาทิเช่น การสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่
พระมหาเจดีย์ สร้างยอดฉัตรหรือสร้างศาสนสถานอื่นใดก็ตาม รวมถึงธรรมทานด้วย
เพื่อลดวิบากกรรมหนักๆ สามารถทำได้ แม้แต่ผู้ที่มีเงินน้อย การทำบุญนี้
ไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินมาก เหมือนที่หลายๆคนในปัจจุบันเข้าใจและติดเป็นค่านิยมกัน
การทำบุญทุกอย่าง ไม่ว่าจะบุญเล็ก บุญใหญ่ ให้ทำตามแต่กำลังของเราที่สามารถ
จะทำได้ และต้องไม่เดือดร้อนตัวเอง แม้แต่เงินสลึงเดียวก็สามารถสร้างมหากุศลได้
ขอให้เพียงเงินนั้นบริสุทธิ์ ไม่ได้ไปเบียดเบียนของใครมาก็พอ และที่สำคัญเจตนาตอนที่ทำ
ต้องบริสุทธิ์ มีความยินดีในบุญที่ทำ เกิดความสุขและความอิ่มเอมใจ นั่นแหละมหากุศลทั้งสิ้น

แต่ถ้าไม่มีเงินจริงๆ ก็ยังสร้างมหากุศลได้ โดยการใช้แรงกายแรงใจในการช่วยก่อสร้าง
หรือแม้แต่การไปชักชวน ป่าวประกาศให้คนมาร่วมสร้างบุญ และขออนุโมทนาบุญกับ
คนเหล่านั้นด้วยทุกครั้ง ก็จะได้บุญมากเช่นเดียวกัน อยู่ที่เจตนาและความตั้งใจเป็นที่ตั้ง

สรุปสั้นๆ ว่า การทำบุญนั้น ไม่ว่าจะเป็นเงินเท่าใดก็ได้บุญเช่นกัน ยิ่งการทำบุญใดๆที่
เป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมากมากหรือสังคม บุญนั้นก็จะมากขึ้นทวีคูณ ไม่มีวันหมด
อาทิเช่น สังฆทาน สร้าง โรงทาน วิหาร อุโบสถ ถนน เป็นต้น จนกว่าสิ่งก่อสร้างหรือ
ศาสนสถานนั้นๆที่ร่วมสร้างจะพังทลายไป

3. การสวดภาวนา ให้ได้บุญมากขึ้น
การสวดภาวนา คาถาศักดิ์สิทธิ์ หรือมนตราอันศักดิ์สิทธิ์นั้น ถ้าได้ทำอย่างถูกวิธีนั้น
จะเป็นการเพิ่มบุญให้กับตัวเอง เพราะพลังบุญ พลังอำนาจของพระคาถาและมนตรานั้น
จะถูกดึงเข้าสู่ตัวผู้สวดด้วย

เคล็ดวิธีมีอยู่ว่า โดยก่อนสวดนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิที่พร้อมจะสวดแล้ว ขอให้ตั้งจิตให้มั่น
แล้วอุทิศบุญทั้งหมดที่ตนเคยทำมานั้น ส่งให้แด่ครูบาอาจารย์ ผู้เป็นเจ้าของคาถาหรือ
มนตรานั้นๆด้วย ซึ่งเป็นการเชื่อมบุญรูปแบบหนึ่ง และหลังจากนั้น ก็อธิษฐานขอมี
ส่วนร่วมในบุญของท่าน และขอมีส่วนร่วมในบุญของผู้อื่นที่ได้สวดคาถาและม
นตราศักดิ์สิทธิ์นั้นด้วย เมื่อใดตามที่มีคนอื่นสวดและกระทำเหมือนกับเรา
เราก็ได้บุญเพิ่มทุกครั้ง

4. การทำบุญด้วยการต่อชีวิตสัตว์ ให้ได้บุญมากขึ้น
การทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์หรือต่อชีวิตสัตว์นั้น หลายคนเรียกว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์
ซึ่งก็แล้วแต่จิตจะพาไป แต่ในความเป็นจริงก็คือ เป็นการทำบุญใหญ่ เป็นการช่วยต่อชีวิต
ต่อโชคชะตา ให้เวลากับสัตว์ที่กำลังจะถึงตายให้ได้มีชีวิตอีกครั้ง และเคล็ดลับสำคัญก็คือ
ก่อนที่จะปล่อยสัตว์นั้นๆ เมื่อได้ซื้อมาหรือเจอ ณ ที่ใดก็ตาม ให้นำไปถวายกับพระสงฆ์เสียก่อน
เพื่อเพิ่มบุญให้มากขึ้น เหตุเพราะว่าพระสงฆ์ที่รับนั้นท่านบริสุทธิ์ และมีศีลมากกว่าเรา
ท่านย่อมมีบุญมากกว่าเรา ยิ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญมากแล้ว บุญนั้นจะเพิ่มเป็นหลายเท่า
จากนั้นก็ขอผาติกรรมชำระหนี้สงฆ์ซื้อคืนมาจากท่าน ด้วยเงินเท่ากับจำนวนที่เราซื้อสัตว์นั้นๆมา
วิธีนี้เป็นการเพิ่มบุญอีกเท่าตัว ได้ทั้งทำบุญต่อชีวิตสัตว์ และชำระหนี้สงฆ์ด้วย หลังจากนั้นก็นำ
ไปปล่อยในที่อันสมควร

อานิสงส์ของการทำบุญด้วยวิธีนี้ ถ้าใครที่ทำได้ตามนี้ บุญที่ได้จะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า
จากการที่ไปซื้อมาแล้วก็ไปปล่อยตามยถากรรม วิธีนี้นอกจากได้บุญน้อยแล้ว
แถมยังได้บาปกลับมาด้วย ดังนั้นจะทำบุญทั้งที ควรฉลาดในการทำบุญด้วย

5. การทำสังฆทานให้ได้อานิสงส์บุญมากขึ้น
การทำสังฆทานควรทำให้ครบทั้งปัจจัยสี่ มีอาหาร( คาว-หวาน-ผลไม้-น้ำ ) ,
เครื่องนุ่งห่ม ( ผ้าไตรจีวร หรือ ผ้าขนหนูสีสุภาพ ) , ยารักษาโรค , ที่อยู่อาศัย
( บ้านหลังเล็กๆ ซื้อได้ตามร้านสังฆภัณฑ์ เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยทิพย์ให้กับ
เจ้ากรรมนายเวร เค้าจะได้มีที่พักพิง ไม่มารบกวนเราอีก ) และควรเพิ่ม
หนังสือธรรมะเข้าไปด้วยเพื่อให้จิตใจของเจ้ากรรมนายเวรซึ้งในรส พระธรรม
มีจิตใจที่เย็นสบายพ้นทุกข์

เคล็ดลับสำคัญ เครื่องสังฆทานและอาหารเหล่านี้ เราควรที่
จะต้องไปถวายแด่พระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญสูง แต่ถ้าหาไม่ได้หรือไม่ทราบ
ให้เรานั้นตั้งจิตอธิฐานถวายแด่พระพุทธเจ้าโดยตรงและ พระปัจเจกพุทธเจ้า
พระอรหันต์ หรือครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ เพื่อให้อานิสงส์ของบุญจะได้มากขึ้น
ทบทวี และหลังจากนั้นก็ให้อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งหมด
และควรกรวดน้ำหลังทำบุญทุกครั้งเพื่อให้พระแม่ธรณีและเทพเทวาทั้งปวงท่าน
เป็นพยานในการทำบุญครั้งนี้


สรุป
เมื่อท่านได้ทราบว่า ทำบุญอะไร แล้วได้รับอานิสงส์ของการทำบุญเป็นอย่างไร
สมควรช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้อื่นได้ทราบด้วย เพราะเป็นการให้คนได้รู้ถึงอานิสงส์
ของทำบุญในแต่ละอย่าง จะได้จำสืบต่อกันไปอย่างถูกต้อง

ดังนั้น จึงสรุปว่า การทำบุญอะไรก็ตาม เมื่อได้ทำบุญแล้ว ก็ได้รับผลบุญในทันที
กล่าวคือ ขณะที่ทำบุญนั้น สภาพจิตของเราตรงนั้นเป็นอย่างไร สุขใจไหม สบายใจไหม
ภูมิใจไหม ตรงนี้ไม่ต้องถาม หวังว่า ท่านที่เคยทำบุญมาแล้วก็จะตอบตนเองได้อย่าง
แจ่มแจ้งทีเดียว

เมื่อเราได้ทำบุญ ผลของการทำบุญ จะให้อานิสงส์ไม่เหมือนกัน บุญบางอย่าง
ก็ให้ผลโดยตรง แต่บุญบางอย่าง ก็ให้ผลโดยอ้อมไม่ตรงทีเดียว ในเรื่องนี้
แสดงให้เห็นว่า อานิสงส์แห่งการทำบุญนั้นไม่เหมือนกัน และผลบุญที่เราได้ทำนั้น
รอให้ผลอยู่ตลอดเวลาแก่ผู้ที่ได้ทำบุญไว้ ตราบเท่าที่ยังมีผลบุญอยู่ สำหรับผู้ที่ไม่ได้
ทำบุญไว้ ถ้าไม่ประมาท ถึงแม้ไม่มีอะไรจะทำบุญ เพียงแต่เห็นคนอื่นเขาทำบุญ
แล้วทำใจให้เลื่อมใส ก็เป็นอันได้ทำบุญเหมือนกัน บุญชนิดนี้ เรียกว่า
บุญด้านปัตตานุโมทนามัย ( บุญจากการอนุโมทนาบุญ )

ขออนุโมทนาบุญผู้ที่เผยแพร่ ธรรมทานครั้งนี้




ชอบจังเลยค่ะคุณแก้วจ๋า เราต้องการสิ่งยึดเหนี่ยว ยิ่งอยู่ในช่วงเป็นหนี้จนไม่รู้จะหาทางออกทางไหน สำหรับโอ๋ก็เข้าวัด สวดมนต์ค่ะ พยายามทำใจให้สบาย แล้วก็ยึดคติของเวปค่ะ "สติมาปัญญาเกิด"

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 11 ปี 8 เดือน ที่ผ่านมา #5234 โดย ntps
ดีใจกับคุณนายบ้านนอกที่เป็นไทแล้วนะค่ะ :) ส่วนเงินเดือนก็ไม่มากค่ะ
เกือบๆ แสนค่ะ ดีที่ไม่มีหักอะไร นี้คืออีกเหตุที่มีหนี้สูงค่ะ เงินเดือนสูง
อะไรๆ ก็สูงตาม :555: ยังสามารถเก็บส่วนหนึ่งเป็นค่าใช้จ่ายตัวเอง
ที่จำเป็น และส่วนหนึ่งไว้จ่ายหนี้ ก็อยากปิดให้หมด โดยไม่ต้องนั่ง
จ่ายแต่ละเดือน แต่สุดวิสัยเพราะมีเหตุการณ์ให้สะดุดค่ะ เช่น อดโบนัส
อดปรับเงินเดือน เป็นต้นค่ะ ก็ประคองไปก่อนค่ะ ทั้ง KTC/SCB และ
กรุงศรีฯ ที่ผ่อนอยู่ก็ยังไม่มีข้อเสนอลดเพื่อปิดที่น่าสนใจค่ะ รอไปก่อนค่ะ

ขอบคุณคุณ moolek ค่ะ รู้สึกสมาชิกใหม่ๆ ทั้งนั้นนะค่ะ ยินดีที่พบกัน
ในบ้านหลังนี้ค่ะ อดทน อดออม แล้วคุณจะถึงที่หมายค่ะ :สู้ๆ:

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5257 โดย Pych
ดีใจมากครับที่ได้มีโอกาสเจอพี่แก้วจ๋าตัวเป็นๆ พี่แก้วดูไม่แก่เลยครับ ดูเด็กกว่าอายุมากๆ เลยครับ
ขอบคุณมากครับ สำหรับ Diary กำลังอยากได้อยู่พอดีเลยครับ

อนุโมทนาบุญกับการทำบุญสม่ำเสมอด้วยนะครับ และขอให้ผลบุญช่วยให้พี่แก้วได้ส่วนลดงามๆ หมดหนี้ไวๆ นะครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5271 โดย ntps
นี้พ่อคุณ อ่าน เจอพี่แก้วจ๋าตัวเป็นๆ แล้วนึกสงสัยว่า ตัวเองเป็นมัมมี่
ถูกดองมาหรือเปล่า แน่นอน คบเด็กหน้าก็ต้องเด็ก หลงเรียกน้องลี
เป็นพี่ลีอยู่ตั้งนาน อายุเป็นแค่ตัวเลขจริงไหมจ๊ะ ^^

ดีใจที่เจอหลายคนที่ไม่ได้เจอ เป็นปลื้มที่ได้เห็นเธอตัวเป็น ไม่ใช่
เสียงตามสาย แต่สงสัยเธอจะแข่งขยายความกว้างกับลูกชาย
หรือเปล่าค่ะ ระวังนะ Oman Air เขาจะจำกัดน้ำหนักขึ้นเครื่องค่ะ
เดี๋ยวจะถูก off load ค่ะ :555: แล้วไปเขียนบันทึกหนี้รักแถว Oman
มาให้อ่านบ้างนะ เผื่อจะออกหนังสือแข่งกับท่านประธานเขานะ
ดูท่านปลื้มองค์รัชทายาทคนนี้เหลือเกินนะ สั่งทำอะไรได้ดั่งใจ
ยกเว้นขอคืนกระทู้บางกระทู้ ท่านว่า ไม่เห็นทำให้เลย ^^


อย่าลืมส่งการบ้านที่ขอด้วยนะ เดี๋ยวจะถูกท่านประธานตามจิกค่ะ
อยากให้ลงตั้งแต่ไก่โห่

เออ ลืมไป ขอประชาสัมพันธ์ข่าวแรก นับแต่วันนี้

คุณอนาคินมี HOT LINE แล้วค่ะ


คุณ Anakin

วันจันทร์ - ศุกร์ (10.00-17.00)
This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
โทร.08-4147-3524





แต่กลัวจะมาฉุดเรตติ้งคนอื่นตกหมดจัง ขอให้โชคดีนะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
ไฟล์ที่แนบมาด้วย:
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel, Hathaichanok05

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5292 โดย Skynine
o_)
แวะมาทักทายคะคุณแก้ว มิ่งมิตรผู้อารีย์ของอัง ในเช้าวันจันทร์ อากาศช่วงนี้เดี๋ยวร้อน หนาว บางครั้งมีฝนหยิมๆ
ด้วย ภายใน 1 วัน ดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอนะคะ มีความสุขในวันทำงานและวันหยุดนะคะ อัง สวยประหาร.. o_)
[/color]

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5465 โดย Pych
ขอบคุณพี่แก้วครับ ที่ช่วยโปรโมทผมที่กระทู้ของพี่ด้วย

ส่วนเรื่องความภูมิฐานเนี่ยแก้ยากครับ หุ่นอาเสี่ยน่ะครับ ต้องทำใจหน่อย

แล้วกระทู้ไหนครับที่ท่านประธานอยากให้กู้คืนแล้วผมยังไม่ได้ทำหรือลืมไปน่ะครับ ถ้าพี่แก้วรู้ ช่วยบอกหน่อยครับ กลัวเดี๋ยวเรทติ้งตก

เอ.. ขาแข้งพี่นกมันแผล็บแล้วมั้ง โดนผมเลียซะ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5479 โดย ntps
thank you นะค่ะ เสี่ยอนาคินขา ไม่น่าคุณนกเธอถึงเดินไม่ค่อยตรง :555: :555: :555:
ขอให้นอนหลับ :sleep: ฝันดีว่า ปลดหนี้หมดแล้วนะจ๊ะ ขอบคุณอีกครั้งสำหรับ your assistance. ^^
ขอเวลาพรุ่งนี้ คิดเนื้อหาที่จะเพิ่มนะค่ะ วันนี้ขอ :bye:

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Pych

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5837 โดย ntps
วันนี้มีสายด่วนขอความเห็นว่า citi ใจดี เสนอลดดอกเบี้ยจาก
20 มาเป็น 6 ควรหรือไม่ควรที่จะประนอม

แก้วจ๋าบอกว่า ถ้าทำให้หนี้ลดลง อย่างที่คุณต้องการปลด
ก็ทำได้ แต่ถ้าทำแล้วหนี้เพิ่ม จะทำไปทำไม

ลูกหนี้อยากจ่ายต่อเดือนน้อยๆ นานๆๆ กลัวฟ้อง กลัวไปที่
ศาลแล้วศาลท่านไม่ฟัง ไม่ลด อะไรประมาณนี้

แก้วจ๋าขอฝากว่า การใช้วิธีหยุดชำระหนี้ชั่วคราวนั้น เป็นวิธี
ที่จะปลดหนี้ดีที่สุดแล้วค่ะ หากคุณมีมานะอดทน อดออม
เก็บทุกบาททุกสตางค์ รับรองว่า คุณได้ปลดหนี้อย่างยุติธรรม
แน่นอนค่ะ

การประนอมหนี้ไม่ว่าจะเสนอดอกเบี้ยมาสักเท่าไร ก็ยังคง
เป็นภาระสำหรับลูกหนี้อยู่ดีค่ะ สมมุติว่า หนี้ตอนหยุด
45000 บาท ปล่อยมาเดือน-3เดือน หนี้วิ่งไปที่ 47000 บาท
แล้วเขาเกิดดูเหมือนว่า ใจดีสุดๆๆ เสนอลดดอกเบี้ยมาที่ 6%
ต่อปี ลองคิดว่า หนี้ใหม่จะเท่าไร หนี้เก่ายอดต่ำกว่ายังไม่
มีความสามารถจ่ายได้ แล้วหนี้ใหม่ที่เพิ่มขึ้นจะทำได้สักกี่เดือน
แม้เขาจะใจดีมากขึ้นด้วยการบอกว่า ขั้นต่ำต่อเดือน ต่ำกว่า
ที่เคยจ่ายอีกค่ะ ยิ่งจ่ายน้อยเงินที่ไปตัดต้นก็น้อยลงค่ะ ดอกเบี้ย
นะ เขาได้เต็มๆอยู่แล้วค่ะ

สรุปว่า ใครได้ประโยชน์ค่ะ และใครเสียประโยชน์ อย่ามอง
แค่ภาพลวงตาข้างนอก เราต้องคิดบวกลบคูณหารความ
คุ้มค่าค่ะ แม้แต่การผ่อน 0% ก็ไม่คุ้มเช่นกัน แก้วจ๋าเจอมาแล้ว
กว่าจะตื้อให้เขาล้างดอกเบี้ยเก่าออกได้ มันยากและนาน
ทุกอย่างที่เขาพูดดูดี เหมือนเซลส์ขายของ แต่พอปฎิบัติ
และลองใช้ ห่วยแตกสิ้นดี :upset:

และการที่ศาลท่านจะพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ เราต้องเขียน
คำให้การสู้คดีเรื่องนี้ค่ะ การเดินไปบอกปากเปล่า ก็ช่วยได้
ระดับหนึ่ง แต่ท่านบางคนอาจไม่ว่างฟังเราก็ได้ค่ะ การต่อ
รองที่ได้ผลดี คือ ปลอดดอกเบี้ย ซึ่งทางเจ้าหนี้เท่านั้นที่
จะอนุมัติได้ค่ะ


ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Skynine, Hathaichanok05, Lyncns31

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5870 โดย Skynine


อังขอมอบเพลงนี้ให้คุณแก้ว มิ่งมิตรผู้อารีย์ของอัง....

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5954 โดย ntps
ขอบคุณค่ะพี่อังค่ะ เพิ่งรู้ว่า เป็นแฟนนันทิดานะค่ะ ชอบเหมือนกันค่ะ :love:
ขอให้พี่อังมีความสุข พักบ้างก็ได้นะค่ะ ปล่อยนายดาบเลเซอร์เฝ้าบอร์ดบ้างค่ะ
ใช้เขาให้เต็มที่ก่อนหนีไป :ลั่ลล้า: :ลั่ลล้า: :ลั่ลล้า: ดูโหดไปไหมค่ะ :555: :555:

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Skynine

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #5968 โดย Skynine

kaewja เขียน: ขอบคุณค่ะพี่อังค่ะ เพิ่งรู้ว่า เป็นแฟนนันทิดานะค่ะ ชอบเหมือนกันค่ะ :love:
ขอให้พี่อังมีความสุข พักบ้างก็ได้นะค่ะ ปล่อยนายดาบเลเซอร์เฝ้าบอร์ดบ้างค่ะ
ใช้เขาให้เต็มที่ก่อนหนีไป :ลั่ลล้า: :ลั่ลล้า: :ลั่ลล้า: ดูโหดไปไหมค่ะ :555: :555:




:love: อังขอขอบคุณมาจากใจจริงของอัง ขอบคุณมากนะคะที่เป็นห่วงอัง o_)
อังทำในสิ่งที่อังพอทำได้เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระคะ ด้วยการเป็นหน่วยพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีเหตุด่วน o_)
อังขอให้คุณแก้วมีความสุขในวันหยุดและทุกๆ วัน ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ อัง สวยประหาร.... o_)
ส่วนคุณอนาคิน ดูแลสุขภาพด้วยนะ พี่อังขอให้คุณอนาคินมีความสุข เจริญในหน้าที่การงาน มีเงินทองเต็มกระเป๋า o_)
ปรารถนาสิ่งใดขอให้สำเร็จทุกประการดั่งที่ตั้งไว้...
[/color] o_)

สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: ntps

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6051 โดย ntps
ขอบคุณค่ะ พี่อังค่ะ วันนี้โคตรยุ่ง เพิ่งเข้ามา log in
มีสายด่วนเรื่อง ศาลเยอะจริงค่ะ รับสายจนไม่รับสายเจ้านาย ^^
แต่ต้องรีบกลับบ้านแล้วค่ะ
Good nite :sleep: นะค่ะ

ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6061 โดย Pych
ขอบคุณครับ พี่อัง สำหรับพรอันประเสริฐ
ขอให้พรที่พี่อังให้ ได้ตอบสนองพี่อังเป็นร้อยๆ เท่านะครับ

พี่แก้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ วันนี้ ผมก็งานยุ่งมากๆ ครับ

"Credit card is the path to the dark side. Credit card leads to eager. Eager leads to avarice. Avarice leads to debt. Debt leads to suffering and dark side."
Anakin.Debt

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6084 โดย Skynine

kaewja เขียน: ขอบคุณค่ะ พี่อังค่ะ วันนี้โคตรยุ่ง เพิ่งเข้ามา log in
มีสายด่วนเรื่อง ศาลเยอะจริงค่ะ รับสายจนไม่รับสายเจ้านาย ^^
แต่ต้องรีบกลับบ้านแล้วค่ะ
Good nite :sleep: นะค่ะ




o_) ถึงคุณแก้ว มิ่งมิตรผู้อารีย์ของอัง คุณแก้วของอังน่ารักที่สุดเลยคะ อังขอบอกออกมาจากใจจริงของอัง (อังไม่ใช่คนที่พูดหวาน เป็นคนพูดตรงๆ)...คุณแก้วดูแลห่วงใยทุกคนให้ความช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน โดยไม่เหน็ดเหนื่อย ความดีของคุณแก้วจะช่วยให้คุณแก้วรอดพ้นจากสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ไปได้ อังจะส่งกำลังใจไปให้คุณแก้วเสมอ อย่างไรก็ต้องต้องดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ
1.กินอาหารให้เป็นเวลาและมีประโยชน์ต่อร่างกาย
2.พักผ่อนให้เพียงพอ (6-8 ชั่วโมงต่อวัน)
3.ออกกำลังกายบ้าง 30 นาทีต่อครั้ง อย่างน้อยๆ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง)
4.ดื่มน้ำเปล่าวันละ 8-10 แก้ว (ช่วยระบบขับถ่าย)

หลับฝันดีทุกๆ คืนนะคะ...

...คิดถึงคุณแก้วเสมอ อัง สวยประหาร
[/color] o_) o_)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6085 โดย Skynine

Anakin เขียน: ขอบคุณครับ พี่อัง สำหรับพรอันประเสริฐ
ขอให้พรที่พี่อังให้ ได้ตอบสนองพี่อังเป็นร้อยๆ เท่านะครับ

พี่แก้ว ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ วันนี้ ผมก็งานยุ่งมากๆ ครับ

o_) พี่อังขอขอบคุณมากคะ พี่อังขอให้คุณอนาคินได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นและให้มาพร้อมกับค่าตอบแทนที่งามๆ ในเร็ววันนี้ด้วยคะ o_) o_)

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา - 12 ปี 1 เดือน ที่ผ่านมา #6100 โดย ntps
วันไหนไม่ได้ต่อปากต่อคำ หรือแซวเจ้าน้องชายตัวแสบคนนี้
สงสัยแก้วจ๋าจะท้องอืดแน่เลย ^^

ขอบคุณค่ะพี่อังค่ะ สิ่งที่พี่อังแนะนำมา แก้วจ๋าจะรับไปปฎิบัติค่ะ
เพราะคุณหมอสั่งมาตลอดแต่เวลายุ่งทีไร ลืมทุกที่ ยิ่งเวลา
แบบลูกติดพัน น้ำก็ลืมทาน ชีวิตตอนนี้เลยต้องไปเยี่ยมเยียน
คุณหมอประจำ ยังดีตอนนี้ 2อาทิตย์ครั้ง แต่ก่อนต้องไปหาหมอ
อาทิตย์ละ 2ครั้งค่ะ :555: จนคนในโรงพยาบาลจำได้แม่นค่ะ

พี่อังค่ะ ไม่ต้องห่วง เจ้าน้องชายแสนดีแสนขยันคนนี้ ไปสูง
แน่อยู่แล้ว ก็เขากำลังบินสูงและไกล คงอีกนานกว่าจะกลับมา
หาเรา ไปเป็นเด็กนอก :cry2:

เมื่อวาน ขนาดบอกว่ายุ่งมาก ยังโทรมาแซวเราได้ บอกว่า
บริษัทแก้วจ๋าขายของแพง ก็ของดีมีขายถูกๆที่ไหนละ พ่อ
เราก็เออ ฉันถึงไม่ได้โบนัสไง เงินเดือนก็ไม่ขึ้น :cry2:
เช้านี้เลยขอเกทับว่า ใครว่าขายแพง ถ้าเธอมาหาพี่ละก็
ป่านนี้ได้ของดีและถูกไปแล้วละ ฮิฮิ ไทยเราจะได้ไม่เสีย
ดุลการค้าให้ต่างชาติ :upset:

ช่วงนี้ แก้วจ๋ามักได้รับสายด่วนขอปรึกษาเรื่องหมายศาล
จากกระบี่ ภูเก็ต บ้าง และส่วนมากฟ้องโดยซิตี้แบงค์ ซึ่ง
เกือบทุกสายพูดว่า ทำไมเขาไม่ลด 50 หรือมากกว่านั้น
ช่างไม่รู้อะไรเลยว่า ซิตี้มันพัฒนาความเขี้ยวแล้วค่ะ ได้
ลดประมาณ 40%ก็เก่งแล้วนะ สำหรับคนมีเงินเดือนกับ
ทรัพย์สมบัติกอดอยู่ค่ะ จะได้ส่วนลดมากหรือน้อย ขึ้น
อยู่กับความพร้อมของกระเป๋าเงินคุณนะค่ะ มีจ่ายได้
อย่างไม่เดือดร้อนหรือเปล่า จ่ายปิดไปหนึ่งก็ถือว่าหมด
กรรมไปกับเจ้าหนี้ไปหนึ่งค่ะ ยิ่งมุ่งหวังส่วนลดมากๆ
อย่างเดียว ก็จะทำให้เครียด และหงุดหงิดเปล่าๆ จน
ทำให้การเจรจาขอส่วนลดไม่เป็นไปตามต้องการนะค่ะ
:สู้ๆ:




ความสุข ไม่ใช่การ... "เพิ่ม"...สิ่งที่ไม่จำเป็นเข้ามาในชีวิต
แต่มัน คือ การ "ลด"....สิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต
สมาชิกต่อไปนี้บอกขอบคุณ: Mommyangel, Skynine, Lyncns31

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิกใหม่ เพื่อเข้าร่วมวงสนทนา

ผู้ดูแล: MommyangelBadmankonsiam
เวลาที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บ: 1.341 วินาที
ขับเคลื่อนโดย ระบบฟอรัม Kunena