มือใหม่โดนทวงหนี้

ขอบคุณพี่ พีจัง มากครับ....

ผมไม่ได้โกรธคุณ rattanad เขาหรอกครับ...เพราะผมก็ไม่ได้รับค่าตอบคำถามจากน้องเขาด้วย....

แต่ ต่อไปจะคอยดูว่าน้องเขาจะเข้าใจกระทู้ปักหมุดได้แค่ไหน เอาใจใส่กับหนี้ของตัวเองหรือเปล่า


ขอโทษคุณ rattanad ด้วยนะครับ ที่ทำให้รู้สึกแย่ แต่ถ้าไม่มีใครทำ คุณก็จะไม่รู้จักจับปลาด้วยตัวเอง

ไม่มีใครที่จะหามาป้อนคุณได้ทุกคำหรอกครับ...คุณต้องเจอยิ่งกว่านี้อีก กับพวกทวงหนี้เลวๆ ถ้าแค่นี้

คุณทนไม่ได้ คุณจะผ่านด่านทวงหนี้ไปได้อย่างไร.....ถ้าคุณคิดจะหักดิบหนี้

คุณลองกลับไปอ่านโพสต์ที่พี่บัวตอบในกระทู้นี้ดูใหม่นะครับ....

ต่อไปนี้ผมจะเฝ้าดูคุณ....ผมจะอยู่เฉยๆ ถ้าผมรู้สึกว่าคุณยังไม่ได้อ่านปักหมุดได้อย่างเข้าใจ....

im_here ...ขอให้โชคดีนะครับ...

ปล. คำว่า คุณกลัวด้วยเหรอ คุณกลัวพวกแมสเซนเจอร์ด้วยเหรอ มันเป็นแค่ คำหนึ่ง ในกระทู้

วิธีรับมือพวกทวงหนี้ ที่คุณหมูสมิงเขียนเอาไว้....เท่านั้นเอง....

สวัสดีค่ะ คุณ rattanad พี่ๆในนี้ไม่แรงนะคะ เขาให้กำลังเสมอๆค่ะ บางครั้งคำพูดที่ตรงๆ มันจะทำให้เรามีเหตุผล และช่วยให้เราฮึดสู้นะคะ ถ้าแรงๆ คงจะเป็นพวกทวงหนี้ค่ะ ต้องตั้งสตินะคะ อย่าไปแคร์คำพูดพวกเขา อย่าไปเข้าทางเขานะคะ แรกๆ ก็แบบนี้ค่ะ ตัดสินใจลำบาก จะหยุดดีไหม หรือไม่หยุดดี อย่างดิฉัน มีหนี้ 9 บัญชี รวมแล้ว 300000 ที่ฟ้องเร็วคือ citi ดิฉันเงินเดือนน้อยกว่าคุณเกือบเท่าหนึ่ง เก็บได้อย่างมากเดือนละไม่เกิน 7-9 พันค่ะ แต่ล้มเหลว เพราะตลอดเวลาที่หยุดมาสี่เดือน ต้องเอาเงินที่เก็บไว้ใช้ช่วงน้ำท่วม แต่ก็ยังสู้อยู่ และก็โดนฟ้องแล้วค่ะ แถมไม่มีเงินก้อนเลย แต่ยังดีใจที่ทำเรื่องปิดกับ FC ได้ 1 บัญชี ใจดีให้ผ่อน 3 งวด ส่วนลดเกือบครึ่ง ตอนนี้ดิฉันก็ลังเลเหมือนคุณ จะขึ้นศาลเอง หรือจะจ้างทนาย โดนพี่ๆ ในชมรมต่อว่ามาเหมือนกัน แต่ดิฉันก็มองที่เหตุผล กลับไปอ่านกระทู้พวกพี่ๆ ที่เขาขึ้นศาลกัน ทำให้รู้ว่าจ้างทนายไม่ได้มีความจำเป็นเลย ไปหาคุณอาที่สวนลุมขอคำแนะนำ และแนวทางเป็นอันใช้ได้ เป็นกำลังใจให้ค่ะ การโดนทวงหนี้นั้น จะหนักๆช่วง 3 เดือนแรกค่ะ เรารับมือได้ไม่ยากนะคะ เดี๋ยวเล่าให้ฟังต่อค่ะ

ถ้าที่มีเหมือนกันก็น่าจะเป็น Citi กับ KTC ค่ะ

KTC นี่เงียบค่ะ มาเดือนละครั้ง พูดจาดี ไม่แรงค่ะ (หมดห่วงค่ะ)

Citi จะมีหลายรูปแบบค่ะ โทรถี่ทุกวันไม่เว้นเสาร์ อาทิตย์
1 ขอเข้ามาหาที่ทำงาน ผมเป็นคนดูแลบัญชีคุณจะมาวางบิล : ไม่อนุญาตให้เข้ามาค่ะ ถ้าจะชำระจะไปชำระที่ธนาคารเอง
2 โทรเข้าออฟฟิศ : ทำไมโทรเข้าออฟฟิศคะ เบอร์มือถือให้ไปแล้วโทรเข้ามือถืออย่างเดียวนะคะ ไม่อนุญาตให้โทรเข้าออฟฟิศ เพราะไว้ติดต่อแค่เรื่องงาน
3 เอาจดหมายมาทิ้งที่หอพักไม่ปิดผนึก : ทำไมเอาจดหมายมาทิ้งที่หอพักและไม่ปิดให้เรียบร้อยคะ ถ้าคนดูแลหอพักเห็นข้อความ เท่ากับคุณตั้งใจให้บุคคลที่สามรู้เรื่องส่วนตัวของดิฉัน แบบนี้ผิดกฏหมายนะคะ ดิฉันสามารถร้องเรียนได้ คราวหน้าขอให้ปิดผนึกมาด้วยถ้าจะเอาจดหมายมาให้อีก
4 โทรหาแฟนค่ะ เป็นเบอร์ที่ให้ไว้ตอนสมัคร บุคคลอ้างอิง : แฟนบอกว่า เบอร์ดิฉันก็ยังใช้อยู่ทำไมโทรมาหาผม (ใช้ได้ในกรณีที่บุคคลอ้างอิงเข้าใจเราค่ะ)
5 ยิงทุกวัน : เหตุที่เขายิงจะลงในระบบว่า ไม่สามารถติดต่อเราได้
6 โทรมาวันเสาร์ : วันหยุดไม่อนุญาตให้โทรมานะคะ ขอพักผ่อนค่ะ โทรได้จันทร์ - ศุกร์ เวลา 06.00-08.00, 12.00-13.00 และหลังหกโมงเย็นไปแล้วไม่เกินสองทุ่มค่ะ (ได้ผลค่ะไม่โทรเลย ยิงอย่างเดียว)
7 โทรมาตอนทำงาน : ตอนนี้ไม่ว่างค่ะ ติดต่อกลับมาใหม่นะคะ ประชุมอยู่
8 เมื่อไหร่จะมีจ่าย : ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ ไว้ติดต่อมาใหม่นะคะ (ไม่ต้องพูดไรมากค่ะ)
9 เสนอส่วนลดช่วงเดือนที่ 4 : ปิดยอดที่ 46000 สนใจไหมคะ (ถ้ามีแล้วเห็นว่าไหวตกลงไปเลยค่ะ แต่ดิฉันมีแค่ 35000 เขาไม่เอาค่ะ เงียบไปค่ะ ติดน้ำท่วม น้ำลดปรากฏว่าโดนฟ้องค่ะ ถ้าตกลงอย่าลืมให้เขาแฟกซ์ใบยืนยันการลดหนี้ก่อนจ่ายเข้าไปนะคะ)

ดิฉันผ่านมาได้ค่ะ ช่วงที่โดนทวงหนี้ ไม่เครียดค่ะ ชิวๆ ไม่เอามาคิดตอนวางหูไปแล้ว เพราะรับสภาพค่ะ ยอมรับความจริง และตอนนี้โดนฟ้องแล้วค่ะ หยุดได้ 6 เดือน เหตุผลด้านบนนั้น ได้มาจากข้อมูลในชมรมค่ะ ใช้ได้ค่ะ โทรไม่ถึงนาทีจบค่ะ ไม่เยิ่นเย้อค่ะ ระหว่างนี้ขอให้ใช้คำว่าสู้ และอดทน ไว้เป็นกำลังใจค่ะ

batk เขียน: ขอบคุณพี่ พีจัง มากครับ....

ผมไม่ได้โกรธคุณ rattanad เขาหรอกครับ...เพราะผมก็ไม่ได้รับค่าตอบคำถามจากน้องเขาด้วย....

แต่ ต่อไปจะคอยดูว่าน้องเขาจะเข้าใจกระทู้ปักหมุดได้แค่ไหน เอาใจใส่กับหนี้ของตัวเองหรือเปล่า


ขอโทษคุณ rattanad ด้วยนะครับ ที่ทำให้รู้สึกแย่ แต่ถ้าไม่มีใครทำ คุณก็จะไม่รู้จักจับปลาด้วยตัวเอง

ไม่มีใครที่จะหามาป้อนคุณได้ทุกคำหรอกครับ...คุณต้องเจอยิ่งกว่านี้อีก กับพวกทวงหนี้เลวๆ ถ้าแค่นี้

คุณทนไม่ได้ คุณจะผ่านด่านทวงหนี้ไปได้อย่างไร.....ถ้าคุณคิดจะหักดิบหนี้

คุณลองกลับไปอ่านโพสต์ที่พี่บัวตอบในกระทู้นี้ดูใหม่นะครับ....

ต่อไปนี้ผมจะเฝ้าดูคุณ....ผมจะอยู่เฉยๆ ถ้าผมรู้สึกว่าคุณยังไม่ได้อ่านปักหมุดได้อย่างเข้าใจ....

im_here ...ขอให้โชคดีนะครับ...

ปล. คำว่า คุณกลัวด้วยเหรอ คุณกลัวพวกแมสเซนเจอร์ด้วยเหรอ มันเป็นแค่ คำหนึ่ง ในกระทู้

วิธีรับมือพวกทวงหนี้ ที่คุณหมูสมิงเขียนเอาไว้....เท่านั้นเอง....

ขอโทษนะคะ

nat1001 เขียน: ถ้าที่มีเหมือนกันก็น่าจะเป็น Citi กับ KTC ค่ะ

KTC นี่เงียบค่ะ มาเดือนละครั้ง พูดจาดี ไม่แรงค่ะ (หมดห่วงค่ะ)

Citi จะมีหลายรูปแบบค่ะ โทรถี่ทุกวันไม่เว้นเสาร์ อาทิตย์
1 ขอเข้ามาหาที่ทำงาน ผมเป็นคนดูแลบัญชีคุณจะมาวางบิล : ไม่อนุญาตให้เข้ามาค่ะ ถ้าจะชำระจะไปชำระที่ธนาคารเอง
2 โทรเข้าออฟฟิศ : ทำไมโทรเข้าออฟฟิศคะ เบอร์มือถือให้ไปแล้วโทรเข้ามือถืออย่างเดียวนะคะ ไม่อนุญาตให้โทรเข้าออฟฟิศ เพราะไว้ติดต่อแค่เรื่องงาน
3 เอาจดหมายมาทิ้งที่หอพักไม่ปิดผนึก : ทำไมเอาจดหมายมาทิ้งที่หอพักและไม่ปิดให้เรียบร้อยคะ ถ้าคนดูแลหอพักเห็นข้อความ เท่ากับคุณตั้งใจให้บุคคลที่สามรู้เรื่องส่วนตัวของดิฉัน แบบนี้ผิดกฏหมายนะคะ ดิฉันสามารถร้องเรียนได้ คราวหน้าขอให้ปิดผนึกมาด้วยถ้าจะเอาจดหมายมาให้อีก
4 โทรหาแฟนค่ะ เป็นเบอร์ที่ให้ไว้ตอนสมัคร บุคคลอ้างอิง : แฟนบอกว่า เบอร์ดิฉันก็ยังใช้อยู่ทำไมโทรมาหาผม (ใช้ได้ในกรณีที่บุคคลอ้างอิงเข้าใจเราค่ะ)
5 ยิงทุกวัน : เหตุที่เขายิงจะลงในระบบว่า ไม่สามารถติดต่อเราได้
6 โทรมาวันเสาร์ : วันหยุดไม่อนุญาตให้โทรมานะคะ ขอพักผ่อนค่ะ โทรได้จันทร์ - ศุกร์ เวลา 06.00-08.00, 12.00-13.00 และหลังหกโมงเย็นไปแล้วไม่เกินสองทุ่มค่ะ (ได้ผลค่ะไม่โทรเลย ยิงอย่างเดียว)
7 โทรมาตอนทำงาน : ตอนนี้ไม่ว่างค่ะ ติดต่อกลับมาใหม่นะคะ ประชุมอยู่
8 เมื่อไหร่จะมีจ่าย : ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ ไว้ติดต่อมาใหม่นะคะ (ไม่ต้องพูดไรมากค่ะ)
9 เสนอส่วนลดช่วงเดือนที่ 4 : ปิดยอดที่ 46000 สนใจไหมคะ (ถ้ามีแล้วเห็นว่าไหวตกลงไปเลยค่ะ แต่ดิฉันมีแค่ 35000 เขาไม่เอาค่ะ เงียบไปค่ะ ติดน้ำท่วม น้ำลดปรากฏว่าโดนฟ้องค่ะ ถ้าตกลงอย่าลืมให้เขาแฟกซ์ใบยืนยันการลดหนี้ก่อนจ่ายเข้าไปนะคะ)

ดิฉันผ่านมาได้ค่ะ ช่วงที่โดนทวงหนี้ ไม่เครียดค่ะ ชิวๆ ไม่เอามาคิดตอนวางหูไปแล้ว เพราะรับสภาพค่ะ ยอมรับความจริง และตอนนี้โดนฟ้องแล้วค่ะ หยุดได้ 6 เดือน เหตุผลด้านบนนั้น ได้มาจากข้อมูลในชมรมค่ะ ใช้ได้ค่ะ โทรไม่ถึงนาทีจบค่ะ ไม่เยิ่นเย้อค่ะ ระหว่างนี้ขอให้ใช้คำว่าสู้ และอดทน ไว้เป็นกำลังใจค่ะ

จริงของคุณทุกอย่างเลยค่ะ พี่พูดมา
ตัดสินใจแล้วค่ะ หยุดทุกใบ
แต่อาจจะไปเอาทองที่มีอยู่มาขาย ไม่จำนำค่ะ ... ขาย
ถ้ามีเงินก็ซื้อใหม่ได้ ตอนนี้เก็บไว้แต่ตัวเองเดือดร้อนก็คงไม่มีความหมาย
ก็จะขายแล้วเอาไปปิดพวกยอดน้อยๆ สองหมื่นบาทก่อน
ส่วนที่เหลือก็อาจจะเอาไปปิดซิตี้แบงก์
หรือคุณ nat1001 คิดว่าให้ขายแต่เก็บไว้ไม่ต้องปิด รอเค้ามาต่อรองอะคะ
แต่โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับคุณ nat1001 ที่บอกว่า ถ้ามีเงินแล้วพอปิดอะไรได้ ก็ปิดไปเลย

ถ้าเป็นดิฉันมีเงินเก็บ มีทองเก็บ จะปิดบัตรเครดิตก่อนค่ะ โดยเฉพาะซิติ้ แต่ถ้าพร้อมจะสู้ รับมือกับการทวงหนี้ ดิฉันหยุดทุกใบค่ะ เก็บเงินให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อรอข้อเสนอจากเจ้าหนี้ ชีวิตเป็นของเราค่ะ คุณตัดสินใจได้เลยค่ะ ว่าจะเอาเงินที่มีอยู่ กับทองที่มีอยู่ไปปิดเลยดีไหมเพื่อลดภาระหนี้ในตอนนี้ แต่ถ้าปิดไปแล้วตัวที่เหลืออยู่ ยังคงทำให้คุณติดลบต่อเดือนอยู่ คุณก็ต้องเลือกว่าจะหยุดจ่ายไหมทั้งหมดไปเลยดีไหม และเตรียมรับมือกับการทวงหนี้

nat1001 เขียน: ถ้าเป็นดิฉันมีเงินเก็บ มีทองเก็บ จะปิดบัตรเครดิตก่อนค่ะ โดยเฉพาะซิติ้ แต่ถ้าพร้อมจะสู้ รับมือกับการทวงหนี้ ดิฉันหยุดทุกใบค่ะ เก็บเงินให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เพื่อรอข้อเสนอจากเจ้าหนี้ ชีวิตเป็นของเราค่ะ คุณตัดสินใจได้เลยค่ะ ว่าจะเอาเงินที่มีอยู่ กับทองที่มีอยู่ไปปิดเลยดีไหมเพื่อลดภาระหนี้ในตอนนี้ แต่ถ้าปิดไปแล้วตัวที่เหลืออยู่ ยังคงทำให้คุณติดลบต่อเดือนอยู่ คุณก็ต้องเลือกว่าจะหยุดจ่ายไหมทั้งหมดไปเลยดีไหม และเตรียมรับมือกับการทวงหนี้

จิงด้วย

ขอบคุณมากๆ กับน้องๆ หลายๆคน ที่ช่วยคัดท้าย ทั้งไม้นวม และไม้นวม เอิ๊กๆ
เพราะหากเจอสมัยคุณหมูสมิง แกยังอยู่ หรือสมัย ลุงนกกระจอกเทศ ยังแรงๆนะ...
คุณrattanad อาจจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง ไปเลยก็ได้

พักนี้ไม่มีเวลามาตอบกระทู้ต่างๆเลยค่ะ
เหมือนสมัยตัวเองเข้ามาใหม่ๆ แล้วกรรมการรุ่นเก่าๆ เขาก็จะตอบน้อยลง เพราะมันตอบ พิมพ์ตอบเขียนจนเมื่อยไปหมดแล้ว งานที่เยอะๆ มันมีมากกว่านี้
ไม่ใช่ไม่เห็นความสำคัญ ไม่ใช่ว่าไม่เห็นใจคนเป็นหนี้
บัวบอกไปแล้วว่า กว่าบัวจะเป็นแบบนี้ได้ ถามพีจังดิ...โดนรุ่นพี่ตำหนิหน้าบอร์ดแรงกว่านี้ร้อยเท่า
พิมพ์ว่าตัวสีแดงๆ ใหญ่ๆ เท่าหม้อแกงเลย
บอกแล้วไงว่า ร้องไห้จนตาบวมปูด
กระทู้แรกๆของ batk ก็อะไรน่ะ..."ยังกลัวๆกล้าๆ อยู่เลยครับพี่" ทำนองเนี้ย?
ตอนนี้ batk นอกจากจะไม่กลัว แล้ว ยัง "บ้า" เอ๊ย.."กล้า" ยิ่งกว่าเดิม

กรรมการทุกคนในชมรมหนี้ฯ ไม่มีเงินเดือน มีแต่ "จิตอาสา" ล้วนๆค่ะ
ทุกคนมีงานประจำทำ มาประชุมก็เอาเงินตัวเองมาเป็นค่ารถ
ไปนั่งที่สวนลุม ก็เจียดเวลาว่างๆ หลังจากช่วยเมียซักผ้าเสร็จ ไปนั่งให้คำปรึกษา
รับ Hotline ก็เป็นโทรศัพท์ตัวเอง เบิกอะไรไม่ได้
แล้วช่วงนี้ เว็บมันล่ม ด้านหลังก็เร่งกู้ข้อมูล ช่วยกันสุดชีวิต เพื่อให้ "บ้านเรากลับมาดีกว่าเดิม"
คุณ rattanad เชื่อบัว อ่านมากๆนะคะ จะได้เก่งๆ
แล้วคนที่หมดหนี้ก็คือ ตัวคุณนั่นแหละ ไม่ใช่ใคร...โชคดีค่ะ

แล้วมันจะผ่านไปครับ แรกๆ ผมก็เวิ่นเว้อเหมือนกันครับ ตอนนี้ ชิล รอประสบการณ์ขึ้นศาลอยู่ กลัวไม่ครบรส

Uobโทรมา 2 รอบแล้วค่ะวันนี้
เก้าโมงกว่า แล้วก็เมื่อกี้
สารภาพค่ะว่าไม่ได้รับสายเลย วันนี้บริษัทหยุดก็เลยนอนทั้งวัน
อ่านกระทู้ไปมา ซึมซับไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่กล้ารับอยู่ดี ขี้ขลาดเน้อะ
แต่ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าหยุดจ่ายมันทั้งหมด หนี้น้อยหนี้ใหญ่ เก็บเงินอย่างเดียว

rattanad เขียน: Uobโทรมา 2 รอบแล้วค่ะวันนี้
เก้าโมงกว่า แล้วก็เมื่อกี้
สารภาพค่ะว่าไม่ได้รับสายเลย วันนี้บริษัทหยุดก็เลยนอนทั้งวัน
อ่านกระทู้ไปมา ซึมซับไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่กล้ารับอยู่ดี ขี้ขลาดเน้อะ
แต่ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าหยุดจ่ายมันทั้งหมด หนี้น้อยหนี้ใหญ่ เก็บเงินอย่างเดียว

หมั่นฝึกรับโทรศัพท์ไว้ สักพักจะชำนาญขึ้น และจะโต้ตอบได้เองแบบอัตโนมัติ...

Angsuu เขียน:

rattanad เขียน: Uobโทรมา 2 รอบแล้วค่ะวันนี้
เก้าโมงกว่า แล้วก็เมื่อกี้
สารภาพค่ะว่าไม่ได้รับสายเลย วันนี้บริษัทหยุดก็เลยนอนทั้งวัน
อ่านกระทู้ไปมา ซึมซับไปเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่กล้ารับอยู่ดี ขี้ขลาดเน้อะ
แต่ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าหยุดจ่ายมันทั้งหมด หนี้น้อยหนี้ใหญ่ เก็บเงินอย่างเดียว

หมั่นฝึกรับโทรศัพท์ไว้ สักพักจะชำนาญขึ้น และจะโต้ตอบได้เองแบบอัตโนมัติ...

ค่ะพี่ ต้องหมั่นฝึกค่ะ sweat

รับไปค่ะ คุยสั้นๆ บอกไปว่าขอดูก่อน ไม่มีติดต่อมาใหม่ แค่นี้ก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ รับดีกว่าไม่รับค่ะ ^_^

nat1001 เขียน: รับไปค่ะ คุยสั้นๆ บอกไปว่าขอดูก่อน ไม่มีติดต่อมาใหม่ แค่นี้ก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ รับดีกว่าไม่รับค่ะ ^_^

ค่ะพี่ ขอบคุณมากมากนะคะ

แย่ละ .. เมื่อกี้แอบไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นผู้พิพากษามา คิดว่าเค้าจะให้แนะนำดีดี ไปในทางเดียวกันกับพี่พี่ในที่นี้ แต่เค้าดันให้คำแนะนำมาว่า

"สรุปเงินต้นต้องจ่ายแน่นอนไม่มีใครลดให้ ที่อาจจะได้ลดจากการเจรจาก็คือดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม แต่ก็แล้วแต่บริษัทอย่างว่า อันนี้ต้องลองคุยก่อนโดนฟ้อง ถ้าปล่อยจะให้มันทวงแล้วค่อยคุยก็ได้ แต่ก็จะเสี่ยงที่ดอกเบี้ยเดินไปเรื่อยๆแล้วเกิดมันไม่ลดให้ก็ซวยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงมันลดดอกให้ก็ต้องจ่ายมันอยู่ดี วันนี้ถ้าดอกเบี้ยยังไม่มาก ให้หาเงินมาจ่ายเงินต้นให้หมดดีกว่า วิธีคืออาจจะต้องไปหาเงินที่อื่นที่ดอกเบี้ยถูกกว่ามาจ่าย ดูจะคุ้มกว่า เช่น ตอนนี้เสียดอกบวกค่าธรรมเนียมเท่ากับ 20 กว่าๆ ไปหากู้ทีอื่นร้อยละ 7 มาจ่ายก็จะได้ประโยชน์กว่า"

ฟังแล้วแทบร่วง

จากที่มุ่งมั่นแน่วแน่ ... กลับกลายเป็นปั่นป่วนเลยทีเดียว

มิหนำซ้ำ ... ท่านยังบอกอีกว่า พวกค่าใช้จ่ายศาลเราต้องจ่ายเอง

กรี๊ด กรี๊ด กรี๊ด

อะไรกันวะเนี่ย

rattanad เขียน: แย่ละ .. เมื่อกี้แอบไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นผู้พิพากษามา คิดว่าเค้าจะให้แนะนำดีดี ไปในทางเดียวกันกับพี่พี่ในที่นี้ แต่เค้าดันให้คำแนะนำมาว่า

"สรุปเงินต้นต้องจ่ายแน่นอนไม่มีใครลดให้ ที่อาจจะได้ลดจากการเจรจาก็คือดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม แต่ก็แล้วแต่บริษัทอย่างว่า อันนี้ต้องลองคุยก่อนโดนฟ้อง ถ้าปล่อยจะให้มันทวงแล้วค่อยคุยก็ได้ แต่ก็จะเสี่ยงที่ดอกเบี้ยเดินไปเรื่อยๆแล้วเกิดมันไม่ลดให้ก็ซวยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงมันลดดอกให้ก็ต้องจ่ายมันอยู่ดี วันนี้ถ้าดอกเบี้ยยังไม่มาก ให้หาเงินมาจ่ายเงินต้นให้หมดดีกว่า วิธีคืออาจจะต้องไปหาเงินที่อื่นที่ดอกเบี้ยถูกกว่ามาจ่าย ดูจะคุ้มกว่า เช่น ตอนนี้เสียดอกบวกค่าธรรมเนียมเท่ากับ 20 กว่าๆ ไปหากู้ทีอื่นร้อยละ 7 มาจ่ายก็จะได้ประโยชน์กว่า"

ฟังแล้วแทบร่วง

จากที่มุ่งมั่นแน่วแน่ ... กลับกลายเป็นปั่นป่วนเลยทีเดียว

ที่หยุดจ่ายเพราะสู้ดอกเบี้ยแพงไม่ไหว เงินในกระเป๋าติดลบ แล้วถ้าไปกู้ที่ใหม่มีเหรอดอกเบี้ยร้อยละ 7 ไม่ใช่เสียภาษีซื้อสินค้านะคะ ศาลท่านช่วยเรื่องดอกเบี้ยโหดให้เต็มที่ยังร้อยละ 7.5 เลยค่ะ หรือสูงสุดก็ร้อยละ 15 ส่วนลดนั้นก็เคยเล่าให้ฟังแล้วว่าจาก 34000 เหลือ 18000 มีอยู่จริง เพื่อนที่รู้จัก 20000 เหลือ 8500 เพื่อนในชมรมเขาก็มีเอาใบยืนยันลดหนี้มาให้ดู ลองเข้าไปดูสิคะ แต่หนี้ต้องเน่าจริงๆ ตอนนี้เท่ากับน้องคิดมากเกินไป ยังไม่พร้อมที่จะหยุด และรับมือกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ถ้าน้องจะเลือกวิธีที่น้องคิดว่าดีที่สุด ก็อย่างที่บอกค่ะชีวิตเป็นของเราค่ะ ค่อยๆคิดดูนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอ แต่พี่เดินหน้าเกินกว่าจะถอยหลังกลับมาได้แล้วค่ะ ยังคงต้องสู้ต่อไป กำลังใจก็จากพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ในชมรมนี้ล่ะค่ะ ^_^

nat1001 เขียน:

rattanad เขียน: แย่ละ .. เมื่อกี้แอบไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นผู้พิพากษามา คิดว่าเค้าจะให้แนะนำดีดี ไปในทางเดียวกันกับพี่พี่ในที่นี้ แต่เค้าดันให้คำแนะนำมาว่า

"สรุปเงินต้นต้องจ่ายแน่นอนไม่มีใครลดให้ ที่อาจจะได้ลดจากการเจรจาก็คือดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม แต่ก็แล้วแต่บริษัทอย่างว่า อันนี้ต้องลองคุยก่อนโดนฟ้อง ถ้าปล่อยจะให้มันทวงแล้วค่อยคุยก็ได้ แต่ก็จะเสี่ยงที่ดอกเบี้ยเดินไปเรื่อยๆแล้วเกิดมันไม่ลดให้ก็ซวยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถึงมันลดดอกให้ก็ต้องจ่ายมันอยู่ดี วันนี้ถ้าดอกเบี้ยยังไม่มาก ให้หาเงินมาจ่ายเงินต้นให้หมดดีกว่า วิธีคืออาจจะต้องไปหาเงินที่อื่นที่ดอกเบี้ยถูกกว่ามาจ่าย ดูจะคุ้มกว่า เช่น ตอนนี้เสียดอกบวกค่าธรรมเนียมเท่ากับ 20 กว่าๆ ไปหากู้ทีอื่นร้อยละ 7 มาจ่ายก็จะได้ประโยชน์กว่า"

ฟังแล้วแทบร่วง

จากที่มุ่งมั่นแน่วแน่ ... กลับกลายเป็นปั่นป่วนเลยทีเดียว

ที่หยุดจ่ายเพราะสู้ดอกเบี้ยแพงไม่ไหว เงินในกระเป๋าติดลบ แล้วถ้าไปกู้ที่ใหม่มีเหรอดอกเบี้ยร้อยละ 7 ไม่ใช่เสียภาษีซื้อสินค้านะคะ ศาลท่านช่วยเรื่องดอกเบี้ยโหดให้เต็มที่ยังร้อยละ 7.5 เลยค่ะ หรือสูงสุดก็ร้อยละ 15 ส่วนลดนั้นก็เคยเล่าให้ฟังแล้วว่าจาก 34000 เหลือ 18000 มีอยู่จริง เพื่อนที่รู้จัก 20000 เหลือ 8500 เพื่อนในชมรมเขาก็มีเอาใบยืนยันลดหนี้มาให้ดู ลองเข้าไปดูสิคะ แต่หนี้ต้องเน่าจริงๆ ตอนนี้เท่ากับน้องคิดมากเกินไป ยังไม่พร้อมที่จะหยุด และรับมือกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่ถ้าน้องจะเลือกวิธีที่น้องคิดว่าดีที่สุด ก็อย่างที่บอกค่ะชีวิตเป็นของเราค่ะ ค่อยๆคิดดูนะคะ เป็นกำลังใจให้เสมอ แต่พี่เดินหน้าเกินกว่าจะถอยหลังกลับมาได้แล้วค่ะ ยังคงต้องสู้ต่อไป กำลังใจก็จากพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ในชมรมนี้ล่ะค่ะ ^_^

"เดินหน้าเกินกว่าจะถอยหลังกลับมาได้แล้ว" ... sweat

สงสัยท่านผู้พิพากษาคงว่าไปตามกระบวนการว่าด้วยการคงไว้ซึ่ง กฎหมายบ้านเมือง

ไม่แนะนำ ไม่ฝักใฝ่ ให้เราแหวกม่านประเพณี ทำตามวิถีคนจร

ท่านจะไปรู้อะไรว่าคนไม่มีเงินมันรู้สึกยังไง

ท่านก็ว่าไปตามเนื้อผ้าของท่าน ท่านจะรู้ได้ไงว่าเนื้อผ้าเรามันไม่มีจะให้ใส่แล้วเว้ยยยย

เอาวะ ...

rattanad เขียน: สงสัยท่านผู้พิพากษาคงว่าไปตามกระบวนการว่าด้วยการคงไว้ซึ่ง กฎหมายบ้านเมือง

ไม่แนะนำ ไม่ฝักใฝ่ ให้เราแหวกม่านประเพณี ทำตามวิถีคนจร

ท่านจะไปรู้อะไรว่าคนไม่มีเงินมันรู้สึกยังไง

ท่านก็ว่าไปตามเนื้อผ้าของท่าน ท่านจะรู้ได้ไงว่าเนื้อผ้าเรามันไม่มีจะให้ใส่แล้วเว้ยยยย

เอาวะ ...

อย่าไปกลัวในสิ่งที่ยังไม่ได้เกิด
อยากให้มองในสิ่งที่กว้างกว่านั้น
มีสักวันที่เราต้องทำได้ดังใจ

ขอ.....เพียง.....ลอง.....
เปิดใจ...... ลอง..คิด..ใหม่
เพื่อก้าวไป

เชื่อในสิ่งหวัง เชื่อในสิ่งที่ทำ
ลองกันดูสักครั้ง แค่เชื่อมั่น
สิ่งที่มันปิดกัน ลองพิสูจน์สิ่งนั้น แค่เชื่อมั่น

ลองทำดูให้เราได้รู้สักครั้ง
ด้วยพลังด้วยความมุ่งมั่นของตัวเอง
สิ่งที่คิดมันอาจไม่ใช่ความฝัน
ข้ามกำแพงไปสู่จุดนั้นด้วยความจริง


ลองฟังดูค่ะ